เผยภาพแรกของหนึ่งในมือมีดสมาชิกไอเอส ที่บุกเข้าไปในระหว่างการประกอบพิธีมิซาที่โบสถ์ “กัมเบททา” ในแคว้นนอร์มังดี ของฝรั่งเศส เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่น และบังคับให้บาทหลวง ฌ้าค อาเมล วัย 84 ปี คุกเข่าหน้าแท่นบูชา ก่อนลงมือ เชือดคอ อย่างเลือดเย็น และพร่ำคำสอนภาษาอารบิก โดยมีผู้ร่วมก่อเหตุบันทึกภาพเอาไว้
หนึ่งในคนร้ายได้ร้องตะโกนสรรเสริญพระเจ้าตอนบุกเข้าไปในโบสถ์ ส่วนคนเชือดคอบาทหลวงชราทราบชื่อแล้วว่า “อเดล เกอร์มิเช” วัย 19 ปี ที่ถูกจับตาจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งหมายความว่าเป็นผู้ต้องสงสัยด้านก่อการร้ายที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังอยู่ระหว่างถูกควบคุมประพฤติโดยสวมกำไลอิเล็คทรอนิคส์ที่ข้อเท้าหลังถูกจับ 2 ครั้ง ในความพยายามที่จะหนีไปเข้าร่วมกลุ่มไอเอสในซีเรีย
เกอร์มิเช ซึ่งอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่ย่าน “แซงต์-เอเตียนน์-ดู-รูเวรย์” เคยติดคุกมาแล้วทั้งในฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ แต่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเร็วกว่ากำหนด โดยเงื่อนไขการประกันตัวทำให้ไม่ต้องถูกควบคุมในช่วงเวลา 08.30-12.30 น. จึงเปิดโอกาสก่อคดีสะเทือนขวัญในช่วงเวลา 09.00-11.00 น. ก่อนถูกตำรวจยิงเสียชีวิตทั้งคู่ หลังออกมาจากโบสถ์พร้อมกับตะโกนสรรเสริญพระเจ้าอีก
อัยการฝรั่งเศส ระบุว่า คนร้ายทั้งสองคนใช้ระเบิดปลอมติดนาฬิกาจับเวลา ในกระเป๋าเป้มีปืนปลอมกับมีดทำครัว และใช้แม่ชีเป็นโล่ห์มนุษย์ ในช่วงเกิดเหตุ มีความพยายามเจรจากับคนร้าย แต่ไม่สามารถเข้าไปในโบสถ์ได้ เนื่องจากมีการล็อคประตูอย่างแน่นหนา
เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจภายในโบสถ์ พบว่า ยังมีแม่ชีได้รับบาดเจ็บอีก 1 คนด้วย
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง ระบุว่า เกอร์มิเช่ สนิมสนมกับมักซีม โฮชาร์ด วัย 24 ปี ที่เคยปรากฎตัวในคลิปวิดีโอของไอเอส ที่แสดงการสังหารตัวประกันจากสหรัฐฯและซีเรีย และเชื่อว่า โฮชาร์ดคือแรงบันดาลใจให้เขาก่อเหตุ
เมื่อเดือนมีนาคม 2558 เกอร์มิเช่ ที่ยังเป็นผู้เยาว์ ได้ขโมยบัตรประจำตัวของพี่ชาย เพื่อหาทางเดินทางไปเข้าร่วมกลุ่มไอเอสในซีเรีย โดยผ่านทางเยอรมนี แต่โดนจับได้ที่มิวนิค และถูกตัดสินให้อยู่ภายใต้การควบคุมของพ่อแม่ แต่หลังจากวันเกิดครบรอบ 18 ปี ก็พยายามเดินทางไปตะวันออกกลางอีก โดยใช้บัตรประจำตัวของญาติ
คราวนี้เขาเดินทางไปกับเพื่อนอีก 2 คน มุ่งหน้าไปยังสวิตเซอร์แลนด์ก่อนขึ้นเครื่องบินไปตุรกี แต่ถูกตำรวจตุรกีจับได้ และส่งตัวกลับไปสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนกลับมาที่ฝรั่งเศส และถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานมีความเชื่อมโยมกับกลุ่มก่อการร้ายเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2558
หลังจากติดคุกไม่ถึงปีจากโทษทั้งหมด 2 ปีครึ่ง ก็ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากอัยการยินยอมให้เขาได้รับการประกันตัว โดยให้พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ โดยมีเงื่อนไขว่า สามารถไปไหนก็ได้โดยไม่ต้องถูกควบคุมในช่วงระหว่างเวลา 08.30 ถึง 12.30 น.ของทุกวัน ซึ่งเมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ได้สร้างความไม่พอใจอย่างใหญ่หลวงแก่สาธารณชน ในประเด็นความล้มเหลวด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ตำรวจพบหลักฐานในระหว่างการบุกอพาทเม้นท์ของผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกไอเอส ที่ชี้ว่า “โบสถ์คาทอลิค” เป็นเป้าหมายสำคัญของผู้ก่อการร้าย