อีซาเผยภาพ “ยานฟิเล่” ที่หายไปในซอกหลืบดาวหาง หนึ่งในภารกิจยานแม่ “โรเซตตา” ที่ใกล้จะปลดระวางในสิ้นเดือนนี้ และภาพยังเผยทิศทางของยานลูกซึ่งทำให้การสื่อสารระหว่างสองยานเป็นไปอย่างยากลำบาก หลังยานลงจอดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
องค์การอวกาศยุโรป (อีซา) เผยภาพยานลงจอดฟิเล่ (Philae) ที่ติดอยู่ในซอกมืดของดาวหาง 67พี/ชูริวมอฟ-เกราซิเมนโก (67P/Churyumov–Gerasimenko) ซึ่งบันทึกโดยยานแม่ “โรเซตตา” (Rosetta) ด้วยกล้องมุมแคบโอซิริส (OSIRIS) กล้องความละเอียดสูงที่ติดอยู่บนยาน
ภาพดังกล่าวถูกบันทึกเมื่อวันที่ 2 ก.ย.2016 ขณะยานโรเซตตาโคจรที่ความสูง 2.7 กิโลเมตรเหนือพื้นผิวดาวหาง และภาพได้เผยให้เห็นขา 2 ข้างจากทั้งหมด 3 ข้างของยานฟิเล่ ซึ่งอีซาระบุว่าทิศทางของยานลงจอดเป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงสาเหตุที่การสื่อสารระหว่างยานแม่และยานลูกเป็นไปอย่างยากลำบาก หลังจากยานฟิเล่ลงจอดดาวหางตั้งแต่ 12 พ.ย.2014
ด้าน เซซิเลีย ทูเบียนา (Cecilia Tubiana) หนึ่งในสมาชิกทีมกล้องโอซิริส และเป็นคนแรกที่ได้เห็นภาพดังกล่าวหลังจากดาวน์โหลดข้อมูลจากโรเซตตาเมื่อ 4 ก.ย.2016 เผยว่าทีมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ในที่สุดก็สามารถบันทึกภาพยานฟิเล่ได้ และได้เห็นภาพที่ให้รายละเอียดอย่างเหลือเชื่อ โดยที่เหลือเวลาสำหรับภารกิจของยานโรเซตตาอีกไม่ถึงเดือน
“หลังจากหลายเดือนของการทำงาน ด้วยเบาะชี้เป้ายานลงจอดที่ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ผมตื่นเต้นและระทึกมากที่เราได้ภาพที่สำคัญที่สุดของยานฟิเล่จอดอยู่ที่หุบเอบิดอส” ลอเรนซ์ โอ’รูร์เก (Laurence O’Rourke) จากอีซา ผู้ร่วมค้นหาร่องรอยยานฟิเล่ที่อีซาเป็นเวลาเดือนกว่า พร้อมกับทีมโอซิริสและทีมจากศูนย์นำร่องและปฏิบัติการวิทยาการลงจอด (Lander Science Operations and Navigation Center : SONC, CNES)

(FILES) This file handout picture released by the European Space Agency (ESA) on December 20, 2013 shows an artists impression of Rosettas lander Philae (back view) on the surface of comet 67P/Churyumov-Gerasimenko.
Europe’s Rosetta spacecraft has finally spotted the tiny lander Philae stuck in a dark crack on the surface of its comet home — the first glimpse since the robot lab crashlanded in 2014, ground controllers said on September 2016. The European Space Agency (ESA) released a photograph of the washing machine-sized robot lab on the comet’s rough surface, one leg thrust into the air.
/ AFP PHOTO / ESA / MEDIALAB / RESTRICTED TO EDITORIAL USE – MANDATORY CREDIT “AFP PHOTO / European Space Agency (ESA)/MEDIALAB ” – NO MARKETING NO ADVERTISING CAMPAIGNS – DISTRIBUTED AS A SERVICE TO CLIENTS
ภาพสุดท้ายของยานฟิเล่ที่เห็นก่อนหน้านี้คือภาพขณะยานลงจอดสัมผัสแรกที่บริเวณอากิลเกีย (Agilkia) บนดาวหาง แล้วกระเด็นกระดอนอยู่นาน 2 ชั่วโมง ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ตำแหน่งที่เรียกว่า “เอบิดอส” (Abydos) ซึ่งเป็นหุบเล็กๆ บนดาวหาง หลังจากแบตเตอรีหลักของยานลงจอดทำงานอย่างหนักหน่วงอยู่ 3 วัน ยานฟิเล่ก็เข้าสู่โหมดจำศีล ก่อนที่จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งและสื่อสารกับยานแม่โรเซตตาเป็นเวลาสั้นๆ ในเดือน มิ.ย.และ ก.ค.2015 ซึ่งเป็นช่วงที่ดาวหางโคจรเข้าไปใกล้ดวงอาทิตย์ ทำให้ยานมีพลังงานมากพอที่จะสื่อสารกลับมา
ก่อนที่จะได้ภาพความละเอียดสูงนี้อีซาก็ยังไม่ทราบตำแหน่งที่แน่ชัดของยานฟิเล่ แม้ว่าจะมีข้อมูลวิทยุที่ชี้ตำแหน่งของยานเป็นพื้นที่หลายสิบเมตร แต่ข้อมูลจากภาพถ่ายความละเอียดต่ำที่บันทึกจากระยะไกลก็ไม่ได้ให้รายละเอียดที่มากนัก กระทั่งกล้องมุมแคบโอซิริสของยานโรเซตตาได้บันทึกภาพที่ระยะห่าง 2.7 กิโลเมตร และให้ภาพความละเอียด 5 เซ็นติเมตรต่อพิกเซล จึงเผยให้เห็นรูปทรงของยานฟิเล่ที่มีขนาดเพียง 1 เมตร พร้อมกับขาของยานได้
ด้าน แมทท์ เทย์เลอร์ (Matt Taylor) นักวิทยาศาสตร์ในโครงการโรเซตตาของอีซา กล่าวว่า การทราบตำแหน่งบนพื้นดาวหางที่ชัดของยานฟิเล่จะช่วยเพิ่มเติมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของยานที่ปฏิบัติหน้าที่ได้เพียง 3 วัน
ส่วน โฮลเกอร์ เซิร์กส์ (Holger Sierks) หัวหน้าทีมปฏิบัติการหลักของกล้องโอซิริส กล่าวว่าการค้นหาตำแหน่งยานลงจอดนั้นเสร็จสิ้นแล้ว และตอนนี้พวกเขารู้สึกพร้อมแล้วสำหรับส่งยานโรเซตาลงจอด และมุ่งหน้าสู่การบันทึกภาพตำแหน่งลงจอดของยานโรเซตตาในระยะที่ใกล้ขึ้น
ตามกำหนดยานโรเซตตาจะลดระดับลงสู่พื้นผิวดาวหางในวันที่ 30 ก.ย.2016 แล้วจะส่งข้อมูลดาวหางในระยะใกล้ในภารกิจสุดท้ายกลับมา รวมถึงข้อมูลพื้นที่ “มาท” (Ma’at) ซึ่งเป็นที่คาดหวังว่าการสังเกตการณ์ที่เข้มข้นนั้นจะช่วยเผยความลับของโครงสร้างภายในดาวหางได้







