แม้ว่า ประเทศอิเควทอเรียลกินี (Equatorial Guinea) ซึ่งอยู่ในแอฟริกากลางจะได้ปฏิเสธรายงานที่ว่ากองทัพจีน (PLA) กำลังพยายามเข้ามาจัดตั้งสถานที่ทางทหารถาวรบริเวณท่าเรือเมืองบาตาซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแล้วก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐฯ ยังคงแสดงความกังวลเกี่ยวกับแผนการที่อาจเป็นไปได้หากจีนสามารถสร้างฐานทัพทหารในมหาสมุทรแอตแลนติกได้ ก็จะถือเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินยุทธศาสตร์ของ PLA ในการขยายขีดความสามารถทางทหารไปทั่วโลก
ทั้งนี้ ในข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญจาก Center for Strategic and International Studies (CSIS) ได้รายงานว่า ในปี 2006(พ.ศ.2549) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีนได้ให้เงินทุนเบื้องต้นสำหรับการก่อสร้างท่าเรือบาตา ซึ่งสร้างขึ้นโดยบริษัท First Harbor Engineering Company ของ China Communications Construction Company และในปี 2014 (พ.ศ.2557) บริษัท China Road and Bridge Corporation (CRBC) ซึ่งเป็นของจีนได้ทำการอัพเกรดท่าเรืออย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญของ CSIS ที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ภายหลังการประชุมระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดี Teodor Obiang Nguema แห่งอิเควทอเรียลกิน เมื่อปี 2015 (พ.ศ.2558) แล้ว ธนาคารเพื่อการอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน (ICBC) ได้ประกาศข้อตกลงมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินกับรัฐบาลอิเควทอเรียลกิน ในขณะที่ Huawei Marine Networks ของจีนก็ได้รับสัญญาจากรัฐบาลอิเควทอเรียลกินีในปีเดรยวกัน สำหรับการดำเนินการเชื่อมต่อระบบเคเบิลใต้น้ำเข้ากับเครือข่ายที่กว้างขึ้นและขยายไปถึงยุโรป โดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Djibloho ซึ่งจ่ายไฟฟ้าให้กับเมืองบาตา ได้รับเงินทุนและการก่อสร้างโดยบริษัทของจีน
สรุปโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.csis.org/analysis/china-building-new-string-pearls-atlantic-ocean )
นำเสนอ/รายงาน
ว่าที่ พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์
ตำแหน่ง เลขาธิการ
สถาบันศึกษาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการเส้นทางสายไหม
30/12/2021