ย้อนอดีตเมื่อปี 2555 ข่าวสดพระเครื่อง ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นักร้องชื่อดังยอดนิยมของประเทศไทย “พลพล พลกองเส็ง” ชาวเมืองหนองคายขนานแท้
โดยเฉพาะผลงานและเพลงที่ทำให้ตัวพลพลมีชื่อเสียงโด่งดัง อาทิ คนเดินถนน ยังยิ้มได้ คนไม่สำคัญ วันนั้นอย่าลืมวันนี้ และยังร้องเพลงประกอบละครหลายเรื่องอีกด้วย
ด้วยเส้นทางชีวิตที่ไม่โลดโผนมากนัก แต่บ่งชี้ถึงความเป็นคนจิตใจดี มีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณเป็นที่สุด
“ทุกวันนี้มาได้ถึงขนาดนี้ รู้สึกได้กำไร คุ้มเกินคุ้ม ผมเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมมีวันนี้คือ พ่อแม่ ความกตัญญู ครูบาอาจารย์ พระสงฆ์ที่เคารพนับถือ คือ หลวงพ่อพูลและหลวงพี่น้ำฝน รวมไปถึงพระที่แขวนติดกายเป็นประจำคือ พระพิฆเนศ-พ่อแก่และเหรียญประจำวันเกิด นพรัตน์ นพคุณ ผมมีอยู่ไม่กี่สิ่ง แต่ถึงจะน้อยแต่ดี เพราะทำให้ชีวิตเราไม่วุ่นวาย สังเกตได้เลย ผมไม่ค่อยมีปัญหากับใคร เจอใครก็มีแต่รอยยิ้มกับความจริงใจ”
“หลวงพี่น้ำฝนสอนผมเสมอเรื่องการวางตัว ท่านบอกให้ยึดหลัก ความจริงใจ รักใครให้รักจริง ให้ซื่อสัตย์กับความรักที่มีต่อทุกคน ท่านสอนให้ผมสำนึกเสมอถึงความกตัญญูกตเวที ท่านบอกความกตัญญูคือเครื่องหมายของคนดีอย่างแท้จริง”
พลพลเป็นนักร้องที่ผู้หลักผู้ใหญ่ คนสูงอายุจะชอบเขามาก นอกจากเด็ก เยาวชน วัยรุ่น นักเรียน นิสิต นักศึกษาแล้ว พระสงฆ์หลายรูปหลายวัดกล่าวชื่นชมพลพล สม่ำเสมอในความเป็นบุคคลที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน ในเรื่องของการไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ไม่เที่ยวกลางคืน และสนใจเข้าวัดเข้าวา เข้าหาพระ หาเจ้า รักษาศีลห้าเคร่งครัด
พลพลศรัทธาพระพิฆเนศ และพ่อแก่ของพระมงคลสิทธิการ หลวงพ่อพูล อัตตรักโข อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นคร ปฐม เป็นพระเครื่องที่พึ่งทางใจ
“แม้ว่าพระพิฆเนศและพ่อแก่ไม่ได้แสดงปาฏิหาริย์อะไรให้อย่างชัดเจน แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองมีความรู้สึกสบายใจ ทำงานคล่องตัวมากขึ้น โดยจะขอพรให้ทำงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ยอดขายเทป ซีดีสูง คนอุดหนุนค้ำชูตลอดไป และทุกครั้งก่อนขึ้นเวทีคอนเสิร์ต หากฝนตั้งเค้ามาก็จะตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากหลวงพ่อพูลว่า ฝนอย่า ตก ซึ่งทุกครั้งฝนก็จะไม่ตก จะตกก็ต่อเมื่อเล่นเพลงจบแล้วเท่านั้น” พลพลกล่าว
พร้อมกันนี้พลพลยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ไม่กล้าเข้าหาพระ ด้วยเหตุที่คิดไปเองว่ามีพิธีรีตองมาก และไม่รู้จะทำอย่างไรกับพระถึงจะเหมาะสม แต่เมื่อได้มาคุยกับพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ก็พบความจริงที่ว่าการเข้าคุยกับพระ ไม่ยากอย่างที่คิด
ทั้งหลวงพ่อพูล และหลวงพี่น้ำฝน ใช้คำพูดธรรมดา ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ นอกจากคำว่า’โยม” กับ’อาตมา” นับตั้งแต่วันนั้นมา เมื่อมีเวลาว่างจากงานประจำก็จะไปช่วยงานหลวงพี่น้ำฝนเกือบทุกอาทิตย์
สำหรับความศรัทธาในตัวหลวงพี่น้ำฝน แม้จะเป็นพระหนุ่ม ซึ่งมีอายุเพียง 40 ปี เท่านั้น พลพลบอกว่ามาครั้งแรกไม่ได้ศรัทธาอะไรท่านเลย ท่านเป็นพระธรรมดารูปหนึ่งที่คอยดูแลรับใช้หลวงพ่อพูล คงไม่ต่างจากพระทั่วไป
“จากความศรัทธาหลวงพี่น้ำฝน สิ่งหนึ่งที่ผมเต็มใจทำงานกับท่านคือ ทำเทปเพลง บทเพลงแห่งความดี ซึ่ง 7 เพลงในแผ่นเพลงมาลัยถวายหลวงพ่อ เพลงแผ่เมตตา เพลงนิยามของคนดี เพลงน้ำใจ เพลงความลับไม่มีในโลก และเพลงศีล 5 เพลงล้วนมีเนื้อหาเกี่ยวกับศีลธรรมทั้งสิ้น โดยหลวงพี่ทำแจกฟรีเป็นธรรมทาน เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติให้กระทำแต่ความดี” พลพลกล่าวทิ้งท้ายอย่างภูมิใจ