สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ จากการบริหารงานของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ในการดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ และกฎระเบียบต่างๆ จนทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนัก เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตามเวลาในสหรัฐ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ตกลงมาอยู่ที่ระดับเดียวก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
ตลาดหุ้นหลักทั้งสามตลาด ในสหรัฐฯ ร่วงลงมากกว่า 1.7% โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์เอสแอลพี 500 ร่วงลง 1.8% มาอยู่ที่ 2,357 จุด ดาวโจนส์ร่วงลง 1.8% ปิดที่ 20,609 จุด ขณะที่ดัชนีตลาดแนสแดกร่วงลงถึง 2.6% มาปิดที่ 6,011 จุด
ทั้งนี้ นโยบายกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของรัฐบาล ทรัมป์ ได้ทำให้ตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ทางการเมือง และความวุ่นวายหลังการปลด นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ของสหรัฐฯ รวมถึงความสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาล ในการผลักดันนโยบายหลักต่างๆ ผ่านรัฐสภายิ่งสร้างความหวั่นวิตกให้กับตลาด ขณะที่รัฐบาลประกาศแต่งตั้ง นายโรเบิร์ต มุลเลอร์ อดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอ เป็นที่ปรึกษาพิเศษดูแลการสอบสวนตามข้อกล่าวหาว่า รัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่ผ่านมา ซึ่งการแต่งตั้งดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับในทางบวกจากนักการเมืองทุกฝ่าย