นายกฯอิสราเอลประกาศจะไม่หยุดโจมตีฉนวนกาซา จนกว่าจะทำลายอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสที่ใช้เป็นเส้นทาง
เล็ดลอดเข้ามาโจมตีอิสราเอลให้สิ้นซาก ด้านฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนกว่า 13,000 คนออกจากลิเบียแล้ว
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศเมื่อ 31 ก.ค.ว่า ไม่ว่าจะมีข้อตกลงหยุดยิงหรือไม่ อิสราเอลจะไม่
หยุดปฏิบัติการโจมตีในฉนวนกาซา จนกว่าอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสซึ่งใช้แทรกซึมเข้าไปโจมตีอิสราเอล
จะถูกทำลายทั้งหมด อิสราเอลยังเรียกระดมทหารกองหนุนเพิ่มอีก 16,000 นาย รวมเป็นทั้งหมด
86,000 นายเพื่อเตรียมสู้ศึก
ส่วนนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ประณามอิสราเอลที่ยิงปืนใหญ่ ถล่มโรงเรียนของยูเอ็นใน
ฉนวนกาซาซึ่งใช้เป็นศูนย์พักพิงชาวปาเลสไตน์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 ศพ อิสราเอลยังโจมตีตลาดที่คน
พลุกพล่านในย่านชิไจยาห์ เมืองกาซา ซิตี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 17 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 200 ราย
ด้านรัฐบาลสหรัฐฯเผยว่าตกลงจะส่งอาวุธยุทธภัณฑ์ให้อิสราเอลเพิ่มเติมเพื่อชดเชยส่วนที่ใช้ไปจน
ร่อยหรอ แม้ยอดชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตจะพุ่งขึ้นถึง 1,374 ศพ แต่กลุ่มฮามาสยืนยันว่า จะหยุดยิง
ก็ต่อเมื่ออิสราเอลและอียิปต์เลิกปิดกั้นฉนวนกาซา
อนึ่ง รัฐบาลฟิลิปปินส์สั่งอพยพชาวฟิลิปปินส์กว่า 13,000 คน ออกจากลิเบียแล้ว หลังนางพยาบาล
ชาวฟิลิปปินส์ถูกลักพาตัวไปรุมข่มขืน และคนงานฟิลิปปินส์อีกคนถูกฆ่าตัดศีรษะ ขณะที่การสู้รบในลิเบีย
ทวีความรุนแรง ส่วนบราซิลก็สั่งอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตในกรุงตริโปลีไปยังกรุงตูนิสในตูนิเซีย หลังสหรัฐฯ
และแคนาดาสั่งปิดสถานทูตของตน ขณะที่อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนีและอียิปต์ก็เตือนพลเมืองให้ออกจาก
ลิเบียทันที.