นายคะซุทากะ นัมบุ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นิสสันได้กำหนดแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี (2016-2018) ซึ่งได้นำเสนอต่อบริษัทแม่ ญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว มีเป้าหมายเพื่อยกระดับตลาดรถยนต์ในไทย และก้าวไปสู่เป้าหมายการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็นตัวเลข 2 หลัก จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่ง 7% รวมถึงการเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้ามากขึ้น
ทั้งนี้แผนระยะกลาง นิสสันมุ่งจะพัฒนาใน 3 ส่วนหลัก คือ แบรนด์, ผลิตภัณฑ์ และเครือข่ายการจัดจำหน่ายและบริการ
ซึ่งการยกระดับแบรนด์นั้นได้เริ่มต้นมาระยะหนึ่งแล้ว และพบว่าได้รับการตอบรับที่ดี และการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าพบว่ามีสัดส่วนที่ดีขึ้น 50% อย่างไรก็ตามจะเดินหน้าในเรื่องนี้ต่อไป โดยเฉพาะการชูเรื่องของเทคโนโลยีขึ้นมาสื่อสารกับผู้บริโภคมากขึ้น
“ที่ผ่านมา เราอาจจะสื่อสารในเรื่องของการออกแบบ ดีไซน์ รูปลักษณ์ของรถ แต่ว่าเรายังมีจุดแข็งอีกหลายอย่างในเรื่องของเทคโนโลยีที่จะต้องสื่อสารมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับแบรนด์ขึ้นไปอีก”
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา นิสสัน มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เนื่องจากมีสินค้าที่หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มผู้มีรถคันแรก (new entry) ไปจนถึงกลุ่มระดับบน ทำให้ไม่สามารถที่จะสื่อสารด้วยข้อความเดียวกันได้ ซึ่งก็จะต้องปรับปรุงมากขึ้นจากนี้ไป
3 ปี เปิดตัวรถใหม่ 5 รุ่น
ในด้านของตัวสินค้าตลอดแผนธุรกิจระยะกลาง จะเปิดตัวรถใหม่รวม 5 รุ่น ซึ่งในจำนวนนี้เป็นรุ่นที่ไม่เคยทำตลาดมาก่อน และมั่นใจว่าจะเป็นรถที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
“เราจะมีรถรุ่นใหม่เข้ามาสร้างความพอใจให้ลูกค้า แต่ทั้งนี้ช่วงนี้ก็มีสิ่งที่จะต้องทำ ก็คือ การปัดกวาดบ้าน รองรับของใหม่ๆ ทั้งเรื่องของการยกระดับแบรนด์ หรือว่าด้านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและบริการ”
นายนัมบุ กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายการจำหน่ายและบริการนั้นที่ผ่านมามีปัญหาอยู่บ้าง เนื่องจากแต่ละพื้นที่ในไทยมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป ความต้องการของลูกค้าก็แตกต่างกันไป ทำให้แนวการดำเนินการบางอย่างไม่ได้ผลเต็มที่ ดังนั้นนิสสันจึงปรับเปลี่ยนแนวทางใหม่ ทำงานร่วมกับดีลเลอร์มากขึ้น เป็นการลดช่องว่างระหว่างนิสสันกับดีลเลอร์ ทำให้ทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น และบทบาทของดีลเลอร์ก็เพิ่มขึ้น คือ การสามารถให้สะท้อนภาพของนิสสัน บ่งบอกถึงความต้องการของดีลเลอร์ และบอกถึงความต้องการของลูกค้า เนื่องจากดีลเลอร์เป็นหน่วยงานที่อยู่ใกล้ชิดกับลูกค้ามากที่สุด
นอกจากนี้ ยังเตรียมลงทุนเพิ่ม เพื่อปรับปรุงดีลเลอร์เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด
“เรามีแผนพัฒนาเครือข่ายการจัดจำหน่ายโดย มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของโชว์รูมและศูนย์บริการ ให้เป็นไปตามมาตรฐานของนิสสัน โดยมีการทำงานกับผู้จำหน่ายอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”
ปัจจุบันนิสสันมีโชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 200 แห่ง ครอบคลุม 77 จังหวัด และศูนย์ซ่อมสีและตัวถังที่กระจายอยู่กว่า 80 แห่ง ทั่วประเทศ
เชื่อตลาดรถไทยกลับสู่หลักล้านคัน
นายนัมบุ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป็นหมายที่ตั้งไว้คือ 7.4 แสนคัน ลดลงจากปีที่แล้วเล็กน้อย แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และเริ่มเห็นทิศทางที่ดีของตลาด โดยเฉพาะปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นมาหลายปีคือ รถคันแรก ที่เริ่มจะคลี่คลาย หลังจากครบกำหนดการถือครอง 5 ปี ช่วงปลายปีนี้
ส่วนปีหน้า เชื่อว่าตลาดจะเริ่มฟื้นตัว มียอดขายที่ดีกว่าปีนี้ แต่ยังไม่มากนัก แต่ช่วง 3-4 ปีหลังจากนี้มั่นใจว่าจะได้เห็นตลาดรถยนต์ไทยกลับมายืนในระดับ 1 ล้านคันอีกครั้ง
“ตลาดรถยนต์ไทยยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก หากเราดูสถิติการขายในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ก็จะเห็นได้ว่ายอดขายนั้นแตะหลักแสนคันต่อเดือน ทำให้ยอดต่อปีอยู่หลักล้านไม่ยาก เพียงแต่ว่าช่วงที่ผ่านมาตลาดเกิดปัญหาจากโครงสร้างที่ผิดเพี้ยนไปในปี 2555 และยังส่งผลกระทบถึงขณะนี้ และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เรากำหนดแผนระยะกลางขึ้นเพื่อเตรียมตัวสำหรับรถยนต์ที่จะกลับมาสดใสอีกครั้ง”
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าตลาดรถยนต์ช่วงครึ่งปีหลัง จะได้รับปัจจัยบวกจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาล การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของค่ายต่างๆ งานแสดงและจำหน่ายรถยนต์ ทั้ง งานบิ๊ก มอเตอร์ เซลล์, งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของค่ายต่างๆ
นายนัมบุ กล่าวว่า ในส่วนของนิสสัน ช่วงครึ่งปีแรกปีนี้มียอดขายรวม 2.3 หมื่นคัน ลดลง 10% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แบ่งเป็นอีโคคาร์ 35% ปิกอัพ 43% ที่เหลือเป็นรถอื่นๆ ส่วนเป้าหมายปีงบประมาณ 2559 (เม.ย.2559 – มี.ค.2560) ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดไว้ 7% หรือ มียอดจำหน่าย 7 หมื่นคัน