….ป่าช้า…วัดหนองปลาดุก..ย้อนเวลาไปราว 30.ปี..ทุกวัดในเขตอำเภอท่าวุ้ง ลพบุรี…ป่าช้า(ป่าในวัด.สำหรับฝังศพ.,.เก็บศพ เพื่อรอการ.จัดการฌาปนกิจหรือเผา.)ป่าช้าของวัดหนองปลาดุก ตั้งอยู่ที่บ้านหนองปลาดุก หมู่ที่ 14 ต.บางลี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี.มีความสมบูรณ์และเป็นป่าช้าที่มีความ.น่ากลัว.ที่สุด.คือ เป็นกลุ่มป่าต้นจิกใหญ่กว่าร้อยต้น กลางป่าจิก มีโรงเรือน 4 เสาหลังคากระเบื้องเป็นเรือนยกพื้นสูง(3 เมตร)มีกระดาน ไม่มีฝาเรือน บนเรือนกลางป่าจิก-ป่าช้า.จะมีโลงศพตั้งเรียงรายทั้งเก่า/ใหม่ เต็มพื้นที่บนเรือน-ส่วนดานล่างตามพื้นดินในป่าช้า จะมีกองดินที่พูนสูงสักครึ่งเมตรกว้าง-ยาว.2คูณ1เมตร.เห็นอยู่ทั่วเขตป่าช้า แบบไม่เป็นระเบียบแสดงว่าในหลุมมีศพ.เห็นมีบางหลุมลึกมีโลงศพเปล่าวางตั้งอยู่ใกล้ปากหลุมแสดงว่า.ไม่มีศพในหลุมนั้น.บรรยากาศเงียบ/เย็นยะเยือก..ไม่มีใคร/ผู้ใดกล้าเข้าใกล้แนวเขตป่าช้าในรัศมี 50.เมตร.รวมถึง.ผู้เล่าเรื่อง.พื้นเดิม.กลัว.ผี.มาก.ไม่เคยย่างกรายเข้าไปใกล้แนวป่าช้าของวัดหนองปลาดุก..ท่านผู้อ่านคงจะสงสัย.แล้วทำไมเล่าบรรยากาศของป่าช้าวัดฯได้…มีเหตุ จะเล่าต่อไปนี้…..หลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าวผ่าน(ราวเดือน ก.พ.) ผู้เขียนกำลังเรียนชั้น ป.2. รร.วัดหนองปลาดุก.(มี ชั้น ป.เตรียม ถึง ป.4)มีนักเรียนรวมร้อย(80-90.คน).ศาลาการเปรียญวัดฯคืออาคารเรียน สนามวัด/รร.ติดป่าช้า.วันหนึ่ง.ฟุตบอล 1 ลูกทั้งโรงเรียน ได้มาใหม่(โรงเรียนไม่เคยมีลูกฟุตบอล)..เล่นฟุตบอลไม่เป็นทั้งโรงเรียน..จำได้ว่าคุณครูวิชัย ม่วงแจ่ม สอนวิธีเตะฟุตบอลหน้าเสาธงช่วงเช้า-เข้าแถว.พอเพล.ได้พัก หลังกินข้าวกลางวันในปิ่นโตของใคร/ของมันแต่ล้อมวงกินรวมกัน.วงละ 10.คน..นักเรียนชาย ป.2-ป.4..ดูจะใจจรด-จ่อกับลูกฟุตบอล..สัก 30 คน นร.ชาย (ป.2-ป.4)นำฟุตบอล-ลูกใหม่เอี่ยม เตะกันไป-มาไม่มีทิศทาง.รู้แต่ว่า.มันนุ่มตีน(เท้า.)ดี.ฝุ่นกระจายคลุ้ง..เฮ้ย.ร้องเสียงดัง.แทบจะพร้อมกัน.ของ นร.ที่เตะลูกฟุตบอลอยู่กลางสนาม..สายตาของ นร.แทบจะทั้งโรงเรียนวัดหนองปลาดุก.มองไปที่.ลูกฟุตบอล.กำลังกลิ้งเข้า.ป่าช้า.เข้าไปลึกมองไม่เห็นลูกฟุตบอล..เฮ้ยทำไงดีวะ.ครู.ตี.แน่เลย.เป็นเสียงของ พี่ ป.4..พร้อมชี้ไปที่ป่าช้า.แล้วพูดเสียง.รัว.ปนความกลัว..นักเรียนชาย.ที่เล่นเตะบอล.ทุกคนรู้ดีถึงความ.ยาก-ลำบาก.ในการที่จะเข้าป่าช้า.วัดหนองปลาดุก.ที่ร่ำ-ลือถึงความน่ากลัวและที่สำคัญ..ผี ดุ..มีพี่ ป.4 (จำไม่ได้ว่าใคร?)เรียกทุกคนที่เตะ-บอลในสนามมารวมตัวกัน.แล้วถามความเห็นว่าจะทำยังไง.กัยลูก-บอลในป่าช้า.สุดท้ายนักเรียนชาย-ทุกคนที่เตะฟุตบอลในสนามวันนี้.ต้องเข้าไปตามหาลูกบอลในป่าช้า.พร้อมๆกันทั้งหมด(ราว 30.คน)รวมถึงผู้เขียนด้วย.ความกลัว-ผีเกิดขึ้นแต่ยังไม่ทันเข้าไปในป่าช้าเลย.แต่ก็ใจชื้นที่มีเพื่อนๆเข้าไปด้วยนับสิบคน.อีกทั้งเป็นเวลาเพล(11.00น.-12.00น.).นักเรียนชาย-นัก-บอล.เดินเกาะแขนกันแน่นย่าง-กรายเข้าป่าช้า.โดยมีกองเชียร์ คือนักเรียนหญิงและนักเรียนชายที่ไม่ได้เล่นบอล.ยืนคอย/ดูอยู่ห่างๆ..กลางสนามร้อน.แต่พอกลุ่มนักเรียนชาย.เดินเข้าใต้ร่มเงาของต้นจิก-ใหญ่.ทำไมอากาศมันดปลี่ยนเป็นเย็นยะ-เยือก.เร็วจัง.ตืนเปล่าๆไม่มีรองเท้าใส่.เดินเหยียบใบต้นจิกที่แห้งและทับถมกันหนาราว 1 คืบ.ทำให้เกิดเสียง.ส๊วบ.กร๊อป.แกร๊ป.ดัง.มาก.ด้วยนักเรียน 30.คน ตีน 60.ข้าง.ไม่มีเสียงพูดออกจากปากนักเรียนสักคน.มีแต่เสียงลมหายใจ.ที่แแกจะมีเสียงฟืด-ฟาด..แปลกที่ทุกคนในป่าช้า ไม่ได้ยินเสียงจากภายนอกเลย.กลับมีเสียงพรึบ.พลับบนต้นจิก..อ้อ.เสียงของนกกระยางนับร้อยตัวขยับบินหนีผู้บุกรุกท่อยู่(รัง)ของพวกมัน.ดวงตาราว 60.ดวง.ต่างสาดมองหาลูก-บอล..ทันใด.นร.ทุกคนมองไปที่ใต้ถุนโรงเรียนสำหรับตั้งโลงศพ.ขาวโพลนโคนเสา.เอ้า.ลูกฟุตบอล.ของพวกเรา.ทุกคนไม่มีเสียงพูดรอดไร-ฟันออกมาเลยสักคน.มีเพียงดวงตา/สายตา.60.ดวง.ที่กรอก-ส่ายไป-มา.และแล้วเหมือนมีใครออกคำสั่ง.นร.ทุกคนเกาะมือกันและกันแน่นกว่าเดิมอีก แล้วพากันลากบ้าง-จูงเพื่อนบ้าง.ไปถึงลูกฟุตบอล.จนได้.ใครล่ะ.จะเป็นคนเข้าไปเก็บลูก-บอล.เงียบดังเดิมไม่มีใครพูด/ไม่มีใครสั่ง-เหมือนใจสั่งมา.พี่เล็ก พี่ ป.4.เดินอยู่แถวหน้า.มือซ้ายกำแน่นกับมือของเพื่อน.ส่วนเรา/ผู้เขียนเป็นน้องเล็กอยู่ในระยะเกือบท้ายสุด.แต่หัวใจในการกลัว(ผี)มีไม่น้อยกว่าใครๆแน่นอน.ด้วยความกลัว/ปนอยากรู้/อยากเห็น.จึงมองในป่าช้า/สังเกตุโดยรอบ.แบบไม่ให้เสียเปล่า.ที่ได้มีโอกาสเข้าป่าช้า.ของวัดหนองปลาดุก ที่มีเสียง.ร่ำลือ.ถึงความน่ากลัวของผี.ผี.พี่เล็ก.พาตัวเองนำหน้า.มือของเพื่อนเกาะติดแน่น.ไปจนถึงลูกฟุตบอล.พอพี่เล็กก้มจะหยิบลูกบอล.เอ้า.ฟุตบอลลูกในใหญ่.มือขวาเพียงมือเดียว.คว้าลูกบอลขึ้นแนบ-อก.ไม่ได้..ครั้นจะละมือซ้ายเพื่อช่วยมือขวา.คว้าลูก-บอล.ก็ทำไม่ได้อีก.พี่เล็กคงคิดเหมือนผู้เขียน.หากปล่อยมือข้างที่เกาะกับเพื่อน.ก็เหมือนกับตัวคนเดียว/อยู่คนเดียวในป่าช้า(ซิ-วะ).เวลาของความกล้า(ไม่กลัว)มันใกล้จะหมดแล้ว.พี่เล็ก.ใช้ตีนขวาเขี่ยลูก-บอล.แต่พื้นมันเต็มไปด้วยใบต้นจิกแห้งที่ทับถม-หนา.ลูกบอลพอถูกเขี่ยเต็มแรง.ไร้ทิศทาง.ลูกบอล.ไถลไปที่โคนต้นจิกที่ห่างไปราว 5 เมตร แทนที่ลูกบอลจะกลิ้งไปอยู่ในวงของนักเรียนที่ร่วมชะตา-ความกลัว(สุด-ขีด)ในป่าช้า.ที่ขึ้นชื่อว่า.ผีดุ.ติดอันดับต้นๆของอำเภอท่าวุ้ง.พี่เล็ก.คงจะ.กัดฟัน.พยายามเกินไปยังลูก-บอลที่โคนต้นจิก.พอถึง.ตืนขวา.ค่อยๆเกี่ยวลูกบอล.แล้วเขี่ยไม่แรง.ลูกบอลอยู่ในวงล้อมของนักเรียน.พรึบ.พรึบ..นกเค้าแมว 2 ตัวบนยอดต้นจิก.บินหนีกลุ่มนักเรียน..เชื่อว่า นร.ทุกคนอยู่ในอาการใจจะขาดให้ได้..หันหลังเพื่อจะเดินออกจากป่าช้า.ตั้งแต่กลุ่ม นร.เข้ามาถึง จนกำลังเดินเพือจะออกจากป่าช้า.ยังไม่มีเสียง นร.คนใดพูดเลยสักคำ/สักประโยค..นร.ทุกคนมองไปที่ชายป่าช้าที่มีแสงแดด.วับ-แวม.มองเห็นเบื้องหน้าราวสัก 40.เมตร.ในใจของนักเรียนทุกคน(รวมถึงผู้เขียนด้วย)อยากจะวิ่งอย่างเร็วเพื่อออกให้พ้น.ป่าช้า-ผีดุ.นี้ให้ไวที่สุด.แต่ที่ข้อมือของทุกคนจะมีมือของเพื่อนที่อยู่ใกล้ที่สุด.คอยยื้อไว้.เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า.เฮ้ย.ใจเย็นๆเดี๋ยว-อีกแป๊บเดียว.ก็จะก้าวพ้นป่าช้า.แล้ว.พร้อมกับตีนจำนวน 60.ข้าง.เดินย่ำใบจิกแห้ง.แบบเดินเร็วกว่า-ขาเข้า.อีก.ไม่กี่อึดใจ.พอกลุ่มแถวหน้า(ช่วงเดินเข้า.อยู่หลัง)เดินออกพ้นป่าช้า.เวลาของความกล้า.หมดลงจริงๆ.กลุ่มที่พ้นปาช้า.รวมผูเล่าด้วย.ต่างออกวิ่งเพื่อไปให้ถึงอาคารเรียน(ศาลาการเปรียญฯ)เบื้องหน้าให้ไวที่สุด.เช่นกันกับกลุ่มหลัง-ตอนเข้าป่าช้าเป็นกลุ่มหน้า.ก็วิ่งโกยอ้าว.เพื่อใหพ้นแนวป่าช้าโดยเร็ว.แต่ยังดีที่ลูกฟุตบอลถูกพี่ ป.4 (จำไม่ได้เป็นใคร)กอดแน่นไว้กับอกช่วงที่วิ่งออกจากป่าช้า.อย่างทุลัก-ทุเล.หลายคนรื่น-ล้ม.เพราะวิ่งบนกองใบต้นจิกแห้ง..จุดรวมพล.นร.ที่เข้าตามหาลูก-บอล.คือใต้ต้นก้ามปูใหญ่หน้าอาคารเรียน.โดยครูใหญ่.คุณครูเปลื้อง กล่อมสกุล.เห็นเหตุการณ์ขณะที่ลูกศิษย์หลายสิบคนวิ่งออกจากป่าช้า.แล้วมารวมกันที่หน้าอาคาร.สักพักหลังจากที่ ครูใหญ่ฯรู้สาเหตุ.กลุ่ม นร.หลายสิบคนเข้าป่าช้า.ไปเก็บลูกบอล.ทั้งที่ นร.แทบทุกคนมีความหงวาดกลัว.ป่าช้า.ของวัดหนองปลาดุก.มาก.คำสั่งของครูใหญ่.สั่งว่า.นักเรียน.ที่จะเตะฟุตบอลให้ไปเล่นที่กลางทุ่งนาที่อยู่อีกฝั่ง/คนละฝั่งลำคลองชลประทานกับโรงเรียน.เพื่อจะไม่เกิดเหตุ.ลูกฟุตบอล.เข้าไปในป่าช้า-ผีดุ..อีก..
ใจรัก วงศ์ใหญ่
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
จังหวัดลพบุรี