วันทึ่ 10 พ.ย.63 เวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) : นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อแจ้งความให้ปิดเฟซบุ๊ก นายสุนัย จุลพงศธร ผิด พ.ร.บ.คอพพ์ฯ และ หมิ่นสถาบันฯ
นายสนธิญาฯ กล่าวว่า ตนใช้สิทธิ์ขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ม.50 (1) พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ ม.5 รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทําใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทํานั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้ เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้กระทําการนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้น ไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นายสนธิญาฯ กล่าวอีกว่า วันนี้มาแจ้งความ ปอท. 3 ประเด็น คือ 1.ให้ปิดกั้นระงับยุติการเผยแพร่สื่อออนไลน์ทั้งหมด อาทิ เพจเฟซบุ๊ก อินสตราแกม ยูทูป เป็นต้น ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสถาบัน 2.เอาผิดเพจเฟซบุ๊ก “สุนัย จุลพงศธร” นักโทษหนีคดี ตาม ม.112 หลังมีการไลฟ์สดจากต่างประเทศ ช่วงประมาณ 19.00 น. ทุกวัน ซึ่งจาบจ้วงสถาบันมาโดยตลอด และ 3.ตรวจสอบบุคคลโพสต์แสดงความคิดเห็นที่จาบจ้วงสถาบันในเพจเฟซบุ๊กของสุนัย ประมาณ 1,500- 2,000 ราย เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยให้มีข้อมูลจาบจ้วงสถาบันมาตลอด จึงอยากให้ ปอท. ดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดให้ถึงที่สุด
นอกจากนี้ อีกประมาณ 2 สัปดาห์ ตนจะไปทวงถามความคืบหน้าที่ สน.ชนะสงคราม กรณีแจ้งความเอาผิด น.ส.อินทิรา หรือ ทราย เจริญปุระ ฐานเป็นผู้สนับสนุนม็อบกระทำความผิดตามกฎหมายและจาบจ้วงสถาบัน เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย.63 ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรแล้วบ้าง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน












