กรมที่ดิน ชี้แจงกรณีเพิกถอนที่ดินเขาแพง จ.สุราษฎร์ธานี ของแทน เทือกสุบรรณ ว่ามีคำสั่งให้ผู้บุกรุกดำเนินการแก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ที่ออกเกิน 14 ไร่ ซึ่งทางผู้บุกรุกดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
23ก.ย.2559 พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)กล่าวถึงกรณีศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. รวมทั้งจำเลยอื่นอีกหลายคน ในคดีบุกรุกที่ดินเขาแพง เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ก่อนหน้านี้กรมที่ดินได้เพิกถอนที่ดินเนื้อที่ 74 ไร่ ของนายแทนไปแล้ว แต่ที่ดินแปลงพิพาทที่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีมีเนื้อที่ 14 ไร่ คณะกรรมการของกรมที่ดิน ยืนยันว่า ขั้นตอนการออกเอกสารสิทธิชอบด้วยกฎหมายจึงไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ
กระนั้นก็ตาม เมื่อศาลอาญามีคำพิพากษาตัดสินว่า มีความผิดฐานร่วมกันยึดถือครอบครองป่า ดีเอสไอจะขอคัดสำเนาคำพิพากษาส่งให้กรมที่ดินเพื่อขอให้เพิกถอนเอกสารสิทธิต่อไป ทั้งนี้ กรมที่ดินสามารถปฏิบัติได้ 2 แนวทางคือ สั่งเพิกถอนที่ดิน ตาม ม. 61 ประมวลกฎหมายที่ดิน โดยไม่จำเป็นต้องรอคดีสิ้นสุด หรือรอให้คดีถึงที่สุดแล้วค่อยเพิกถอน
พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวต่อว่า สำหรับความผิดในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อปี 2556 มีการยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขาแพง โดยกล่าวหาเจ้าพนักงานที่ดิน เจ้าหน้าที่รังวัด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ทำให้คดีนี้ป.ป.ช.เริ่มตรวจสอบก่อนที่ดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษประมาณ 1 ปี เมื่อดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษใช้เวลา 1 ปี ในการสอบสวนและสรุปสำนวนมีความเห็นส่งให้อัยการยื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาล จนกระทั่งศาลอาญามีคำพิพากษา
ด้าน นายประวิทย์ สากลกิจจานุกูล เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย เปิดเผยว่า คดีที่ศาลสั่งจำคุกนายแทน เทือกสุบรรณ รุกป่าสงวนบนเขาแพงนั้น ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย พร้อมดำเนินการแก้ไขเอกสารสิทธิ์และโฉนดให้ถูกต้อง หลังจากคดีสิ้นสุดลงโดยทางกรมที่ดินจะส่งเรื่องมายังผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนจะให้ที่ดินเกาะสมุยดำเนินการต่อไป
โดยที่ดินนส.3ก. เลขที่ 3301 ,3302 และ3285 ม.6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ส่วนที่ออกโดยมิชอบ 31-2-97 ไร่ และโฉนดที่ดินเลขที่ 28109 เฉพาะส่วนที่เกินจากที่ดินนส.3ก. เลขที่ 3301 ,3302 และ3285 มีการรวมแปลงเป็นโฉนดเนื้อที่ 14 ไร่
ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าว ม.6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย พบว่าอยู่บนเขาสูง เห็นวิวทะเลอย่างสวยงาม และมีการตัดถนนคอนกรีตเชื่อมกับถนนปางปอซอย 4 ต.แม่น้ำ เข้าไปยังที่ดินแปลงดังกล่าว ด้านล่างมีการขุดบ่อน้ำไว้ใช้ โดยรอบไม่พบสิ่งปลูกสร้างบ้านพักแต่อย่างใด แต่ไม่สามารถขึ้นไปด้านบนของที่ดินได้เพราะมีการนำเหล็กมากั้นถนนทางเข้าไว้
วันเดียวกัน นายเจริญธพงษ์ มาชู ปลัดอำเภอเมืองตรังในฐานะหัวหน้าศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอเมืองตรัง นำกำลังพร้อมตำรวจทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบหอพักคนงานต่างด้าว ที่บริเวณเหมืองน้ำสาธารณะประโยชน์ ม.8, ม.9 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง หลังชาวบ้านร้องเรียน ว่า โรงงาน ห.จ.ก.แม็กเนติก ได้ทำการบุกรุกพื้นที่เหมืองน้ำสาธารณะประโยชน์ เพื่อใช้เป็นหอพักของคนงานซึ่งเป็นลักษณะแบบทรงกระบอกคล้ายแทงก์น้ำขนาดใหญ่ มีด้วยกัน 3 ชั้น ได้ทำการดัดแปลงเปลี่ยนแปลงเหมืองน้ำเปลี่ยนแปลงทิศทางของเหมืองน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการก่อสร้างกำแพงคอนกรีตลงกลางเหมือง และสร้างท่อเก็บห้องน้ำในเหมืองน้ำอีกด้วย
นายเจริญธพงษ์ กล่าวว่า ได้เคยสั่งให้รื้อถอนหนหนึ่งแล้ว เนื่องจากเป็นการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุฯต แต่เจ้าของกลับประวิงเวลามานานกว่า 4 เดือน จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย และจากการตรวจสอบยังพบแรงงานพม่า 3 คนที่ไม่มีใบอนุญาต จึงนำตัวแรงงานต่างด้าวพร้อมนายจ้างไปดำเนินคดี
ด้าน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยความคืบหน้าว่าจากการ มอบหมายให้พล.อ.ปัฐมพงษ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรมว.เกษตรฯ มาเป็นที่ปรึกษาคณะทำงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) ในการดำเนินงานตามคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 36/2559 เรียกคืนพื้นที่ส.ป.ก.มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก
โดยได้ชี้พื้นที่เป้าหมายแปลงที่ดินที่มีผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. รายใหญ่โดยมิชอบด้วยกฎหมายเกินกว่า 500 ไร่ ทั้งสิ้นจำนวน 431 แปลงเนื้อที่ 437,297 ไร่ ใน 27 จังหวัด โดยขณะนี้ทำการตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายเสร็จสิ้นแล้ว 430 แปลง คงค้างแปลงสนามกอล์ฟไมด้าเนื้อที่ 700 กว่าไร่ จ.กาญจนบุรี
ขณะที่ พล.อ.ปัฐมพงษ์ กล่าวว่าผลการตรวจสอบเบื้องต้น สรุปว่า 1.ที่ดินที่ไม่มีผู้คัดค้านทั้งแปลง จำนวน 28 แปลง เนื้อที่ 27,874 ไร่ 2.ที่ดินที่มีผู้คัดค้านบางส่วนของแปลงจำนวน 268 แปลง เนื้อที่รวม 293,125 ไร่ แยกเป็นมีผู้คัดค้าน 220,850ไร่ ไม่มีผู้คัดค้าน 72,275 ไร่ 3.ที่ดินที่มีผู้คัดค้านทั้งแปลงและบางส่วน (รวมบางส่วนตามข้อ 2) จำนวน 403 แปลง เนื้อที่รวม 340,905 ไร่แยกเป็นคัดค้านโดยเอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน 127,172 ไร่ เอกสาร ภบท.5 และอื่นๆ 225,400 ไร่
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ สปก.สามารถปฎิบัติการยึดพื้นที่คืนโดยไม่มีผู้คัดค้านเลยถึง 292 แปลงรวม
เนื้อที่ เนื้อที่ 129,126 ไร่ ส่วนที่ดินในเป้าหมายเกิน 300 ไร่ แต่ไม่ถึง500 ไร่ และแปลงต่ำกว่า300ไร่ทาง สปก.กำลังเร่งดำเนินการอยู่