วันที่ 16 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีนายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์คดีชำนาญการพิเศษ และอดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกาทำหนังสือถึง นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา เรื่อง ขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมาย กรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า ข้าราชการตุลาการ (ก.ต.) กระทำผิดวินัย กรณีหาเสียงเพื่อให้ข้าราชการตุลาการลงคะแนนหรืองดเว้นลงคะแนนเลือกบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา 36 (3) แห่ง พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 โดยระบุว่า ผู้ใช้ชื่อในแอพลิเคชั่นไลน์ คือ J29 Anuruk,S.Tany,rlex เป็นผู้ดำเนินการล็อบบี้หาเสียง และนายชำนาญฯ ยังยื่นคำร้องในเรื่องนี้ถึงประธานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตเเห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร้องเรียนเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.64 โดยนายชำนาญฯ ได้แนบหลักฐานคือสำเนาหนังสือสำนักงานศาลยุติธรรม พร้อมหลักเกณฑ์การห้ามหาเสียงเลือกกรรมการหรืออนุกรรมการใดๆ,สำเนาหนังสือสำนักงานศาลยุติธรรมพร้อมสำเนาประกาศ (ก.ต.) เรื่องแนวทางพิจารณาเกี่ยวกับจริยธรรมในการหาเสียง,เอกสารจากหน้าจอไลน์จำนวน 69 เเผ่น,เอกสารจากหน้าจอไลน์แสดงการโพสต์ข้อความของผู้ใช้ชื่อโปรไฟล์ไลน์ว่า J29 Anuruk จำนวน 11 แผ่น,เอกสารจากหน้าจอไลน์กลุ่มต่างๆที่มีบุคคลอื่น โพสต์ข้อความอันเข้าลักษณะเป็นการหาเสียงให้แก่ผู้สมัคร (ก.ต.) จำนวน 19 แผ่น ประกอบคำร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ช่วงนี้สำนักงานศาลยุติธรรมกำลังพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี 2565 และเรื่องนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
โดยล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ โดยนายพงษ์เดชฯ กล่าวสั้นๆว่า “ยังไม่ขอให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าว”
แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลยุติธรรมเปิดเผยว่า ในเรื่องที่นายชำนาญฯ ร้องเรียนมายังประธาน
ศาลฎีกาและยื่นเรื่องไปยัง (ปปช.) เรื่องข้าราชการตุลาการ (ก.ต.) กระทำผิดวินัย กรณีหาเสียงเพื่อให้ข้าราชการตุลาการลงคะแนนแต่ยังไม่มีความคืบหน้านั้น เป็นที่น่ากังวลว่า อาจจะเกิดความกังขาในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการสำนักงานศาลยุติธรรมประจำปี 2565 เป็นอย่างยิ่ง เพราะหากพบว่าการกระทำดังกล่าวของ (ก.ต.) บางท่านที่ดำเนินการเช่นข้อร้องเรียนของนายชำนาญฯ เกิดขึ้นจริง และ (ก.ต.) ท่านนั้นกลับไปมีส่วนร่วมในการประชุมแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการสำนักงานศาลยุติธรรมประจำปี 2565 ด้วยนั้น น่าจะเกิดผลเชิงลบและผลทางกฎหมายหลายอย่างกับสถาบันตุลาการแน่นอนเพราะสื่อมวลชนและสังคมได้ติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า “หากยังไม่มีความชัดเจนใดๆในเรื่องข้างต้นจากสำนักงานศาลยุติธรรมในเร็วๆนี้ อาจจะเกิดการร้องเรียนหรือฟ้องร้องผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรมหรือ (ก.ต.) ชุดนี้ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจนอาจเกิดวิกฤตตุลาการขึ้นอีกครั้งก็เป็นได้”
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน