รายงานของ South China Morning Post ระบุว่าทั้งจีนและสหรัฐฯ ต่างตำหนิกันและกันว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดความตึงเครียด ต่อภูมิภาคโดยเฉพาะในทะเลจีนใต้ ซึ่ง Antony Blinken รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในการประชุมสุดยอดความมั่นคงทางทะเล ของสหประชาชาติ ครั้งล่าสุดผ่านระบบทางไกล (เมื่อวันที่ 9 ส.ค.64) ว่า จีนกำลังเผชิญผล ที่จะเกิดขึ้นจากการเพิกเฉย ต่อกฎเกณฑ์ในทะเลจีนใต้ ในขณะที่ Dai Bing รองเอกอัครราชทูตจีน ประจำสหประชาชาติ ตอบโต้ด้วยการกล่าวถึง สหรัฐฯ ว่าเป็นภัยคุกคาม ต่อเสถียรภาพที่ใหญ่ที่สุด ในภูมิภาค เนื่องจากเป็นมหาอำนาจเดียว ที่ล้มเหลวในการให้สัตยาบันอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วย กฎหมายทะเล (Unclos) ที่เป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดระบอบกฎหมาย และระเบียบที่ครอบคลุมในมหาสมุทรและทะเลของโลก ดังนั้น สหรัฐฯ จึงไม่มีความน่าเชื่อถือจากการที่มีฐานะเป็นประเทศนอกภูมิภาคที่นำเรือรบ และเครื่องบินรบรุกล้ำเข้าสู่ทะเลจีนใต้ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์เห็นว่า การเผชิญหน้าที่เป็นอันตรายดังกล่าว ในทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากร และการอ้างสิทธิ์ได้รับการโต้แย้งโดยประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และฟิลิปปินส์ โดยที่ความตึงเครียด ยังคงปะทุขึ้นในทะเลจีนใต้
จากกรณีล่าสุดที่จีนได้ซ้อมรบในทะเลจีนใต้ระหว่างวันที่ 6 – 10 ส.ค.64 ในขณะที่สหรัฐฯ ซ้อมรบระยะยาว 26 วัน กับอังกฤษ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่นในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมทั้งอินเดียที่ได้ประกาศว่า จะส่งกองกำลังเฉพาะกิจเป็นเรือรบ 4 ลำไปยังทะเลจีนใต้และแปซิฟิกตะวันตกเป็นเวลาสองเดือน
สรุปโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3144512/south-china-sea-us-and-china-spar-over-biggest-threat-disputed )
นำเสนอ/รายงาน
ว่าที่ พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์
ตำแหน่ง เลขาธิการ
สถาบันศึกษาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอาเซียนและโครงการคลองกระ
13/8/2021