วันที่ 27 ก.ย.64 เวลา 14.00 น.ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม.ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3,พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3, และพ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดีที่น่าสนใจ จำนวน 2 คดีดังนี้
คดีที่ 1.วินรถตู้หัวใส ปลอมวีซ่า ตม.เจ้าตัวเผยหลอกมาแล้วหลายราย
เจ้าหน้าที่ ตม.จ.สมุทรสงคราม ได้ตรวจพบว่ามีผู้เสียหายรายหนึ่ง เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาว ได้ว่าจ้างนายหน้าให้ดำเนินการต่อวีซ่าให้แต่ปรากฏภายหลังว่าวีซ่านั้นตราประทับไม่ถูกต้อง ชุดสืบสวนตม.จ.สมุทรสงครามจึงได้ร่วมกับกก.สส.บก.ตม.3 ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาซึ่งรับเป็นนายหน้าดำเนินการรายนี้คือ นายพันธมิตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี มีอาชีพหลักเป็นพนักงานขับรถตู้โดยสาร ชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและประสานงานร้อยเวรสอบสวน จนต่อมาสามารถดำเนินการออกหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสงคราม ที่ จ.45/2564 ลงวันที่ 23 ก.ย.64 ซึ่งต้องหาฐานความผิด “ปลอมเอกสารราชการ” ไว้ได้
ในภายหลังสืบสวนจนทราบว่านายพันธมิตรฯ ได้หลบหนีมากบดานในพื้นที่ ต.ทุ่งหลวง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด จึงได้เข้าไปสืบหาติดตามจนกระทั่งได้พบตัวนายพันธมิตรฯจึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับ นายพันธมิตรฯ รับว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับโดยรับสารภาพว่าเป็นผู้รับดำเนินการจากผู้เสียหายจริง โดยนอกจากผู้เสียหายรายนี้แล้วได้รับเป็นนายหน้ากระทำผิดในลักษณะเดียวมาแล้ว 5 ครั้งก่อนถูกจับกุมในแต่ละครั้งมีการรวบรวมเล่มหนังสือเดินทางจากต่างด้าวจำนวนหลายคน จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีและในส่วนขบวนการที่เกี่ยวข้องจะได้มีการสืบสวนขยายผลต่อไป
คดีที่ 2.รวบแล้วหนุ่มอังกฤษ crypto trader มีพฤติกรรมค้ายา พกปืนเถื่อน
กล่าวคือก่อนที่จะมีการควบคุมตัวในครั้งนี้ บก.ตม.6 ได้ทำการเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรของนาย Benjamin (ขอสงวนสกุล) อายุ 33 ปี สัญชาติอังกฤษ อยู่ในราชอาณาจักรโดยเหตุผลปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรสาธารณะกุศล และมีข้อมูลว่ามีอาชีพเป็นนักลงทุนเงินในสกุลเงินดิจิตอลอีกหนึ่งอาชีพ โดยเหตุผลการเพิกถอนการอนุญาตฯ สืบเนื่องมาจากมีพฤติการณ์ที่เป็นภัยสังคมโดยได้ใช้อาวุธปืนยิงออกขึ้นฟ้าจำนวน 2 นัดในบริเวณชายทะเลที่มีประชาชนสัญจร ภายหลังก่อเหตุถูกตรวจค้นพบยาไอซ์ จำนวน 3 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 7 กรัม และอาวุธปืนอีก 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหลายนัด
ถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน พกพาอาวุธปืนฯ และยิงปืนโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” เหตุเกิดบริเวณริมชายหาด ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยพฤติกรรมของนาย Benjaminฯ มีลักษณะเป็นภัยต่อสังคมเข้าลักษณะบุคคลต้างห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯจำเป็นต้องมีการเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรและผลักดันออกนอกราชอาณาจักร
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวน กก.สส.บก.ตม.3 ได้ทำการสืบสวนทราบว่าหลังจากการดำเนินคดีเสร็จสิ้น นายBenjamin หลบหนีมาซ่อนตัวยังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้ติดตามและควบคุมตัวได้ที่บริเวณตลาดหัวนา ต.หัวหิน อ.หัวหินจ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะดำเนินการผลักดันออกนอกราชอาณาจักรต่อไป
พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ฯ ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทรกรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน