พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีความห่วงใยในความปลอดภัยของผู้ใต้บังคับบัญชาในการปฏิบัติหน้าที่ จึงได้กำชับให้ทุกสถานีตำรวจดำเนินการฝึกยุทธวิธีอย่างเป็นรูปธรรมและอย่างต่อเนื่อง ในด้านยุทธวิธีต่างๆ เช่น การเข้าจับกุม ตรวจค้น ฯลฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานมีความปลอดภัย ลดความสูญเสียต่างๆ ทั้งนี้ยังได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาไม่ว่าจะเป็นในระดับกองบัญชาการ กองบังคับการ ลงมาช่วยกำกับดูแล มีการตรวจสอบการฝึกอยู่เสมอ ให้ผู้บังคับบัญชาลงไปถามตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บ้างว่ารู้เรื่องที่ ตร. มีการจัดฝึกบ้างหรือไม่ คนที่ได้รับการฝึกไปแล้วก็จะต้องมี การตรวจสอบมาตรฐาน และอาจมีการแข่งขันประกวดการฝึกขึ้นในระดับจังหวัดและระดับภาค
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ให้จัดการฝึกแข่งขันกันเองภายในกองบัญชาการ เป็นฝึกทีมบริหาร ทีมปฏิบัติ มีการจัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบการฝึกไปเป็นคนกำหนดโจทย์การฝึก กำหนดมาตรฐานและวิธีการตรวจสอบวัดผล แล้วให้ทุกสถานีมาฝึกประกวดแข่งขันกัน การฝึกมีทั้งสายงานป้องกัน และสายงานสืบสวน โดยรูปแบบของการฝึกนั้น จะเป็นการฝึกระงับเหตุ เช่น
- เมาสุราอาละวาด
- เมายา อาละวาด
- สามี ภรรยา ลูก ทะเลาะกัน เหตุในครอบครัว ทั้งมีอาวุธ และไม่มีอาวุธ
- บ้านติดกัน ร้านค้าติดกัน มีปากเสียงทะเลาะกัน
- รถชนกัน รถปาดหน้ากัน ลงมาตีกัน ขับไล่ชนกัน
- วัยรุ่นขับรถแข่งกัน ก่อความเดือดร้อนรำคาญ
- เหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ร้านทอง
- เหตุวิ่งราวทรัพย์
- เหตุปล้นทรัพย์
- เหตุทะเลาะวิวาทกันที่โรงพยาบาล
- การปิดล้อมตรวจสารเสพติดชุมชน
- การปิดล้อม ตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหามีหมายจับ
- การขับรถไล่ล่า รถต้องสงสัย รถที่ผู้ต้องหาขับขี่หลบหนี
- การหยุดรถต้องสงสัย
- การวางแผนล่อซื้อจับกุมยาเสพติด
- เหตุต่างๆที่เกิดขึ้นแล้วทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ เสียชีวิต
ส่วนการฝึกรับมือ Active shooter อาจจะต้องเน้นการอบรมในห้องเรียนให้ทุกๆหน่วยในสถานี ในกองกำกับการ ในจังหวัด หรือใน บก.น. เข้าใจเหตุและผลก่อนจะไปสู่การฝึกทางยุทธวิธี
ตร.ได้จัดฝึกครูแม่ไก่ไปแล้ว จึงให้แต่ละ บช. ไปกวดขันให้มีการฝึกถึงสถานีตำรวจให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้ ซึ่งศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปรามและศูนย์บริหารงานสืบสวน ได้ออกแผนการฝึกให้ไปแล้ว รวมถึงแผนการตรวจสอบด้วย
การฝึก ให้เน้นการฝึกที่สถานีตำรวจเอง เป็นการฝึกประจำสัปดาห์หรือประจำเดือนที่สถานีตำรวจ ไม่ใช่ฝึกเฉพาะแค่ท่าบุคคลมือเปล่า แต่เป็นการฝึกเรื่องของยุทธวิธีด้วย
การฝึกยุทธวิธี ต้องเริ่มต้นที่ฝึกกระบวนการตัดสินใจ วินาทีแรกที่รับแจ้งเหตุ ต้องฝึกการประเมินสถานการณ์ชั้นต้นว่าเป็นเหตุอะไร จะใช้กำลังแบบไหนอย่างไร ฝึกการสื่อสารว่า เหตุประเภทใดที่ผู้กำกับต้องรู้ รองผู้กำกับต้องรู้ หรือสารวัตรต้องรู้บ้าง ความเร็วในการไปถึงที่เกิดเหตุก็เป็นปัจจัยสำคัญ ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่จะต้องรู้รวดเร็วที่สุด และการส่งต่อข้อมูลให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เรื่องพวกนี้เกิดในเวลาอันสั้นไม่เกิน 5 นาที สายตรวจ สายสืบจะต้องมีมาตรฐานการทำงาน เป็นมืออาชีพ ยึดหลักความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง มีตัวอย่าง เมื่อไม่นานมานี้ที่สายสืบ 8 คนไปจับผู้ต้องหาคนเดียวแล้วถูกยิงเสียชีวิต ก่อนหน้านี้ก็มีอีกหลายเหตุการณ์ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่สามารถป้องกันได้และไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกแล้ว เมื่อสองวันก่อนก็เห็นข่าวในโทรทัศน์ ตำรวจสายสืบกระโดดเข้าไปจับคนถือมีดจี้ภรรยาตัวเอง เห็นท่าทางวิธีการเข้าไปจับกุมของตำรวจแล้ว ถ้าผู้ต้องหาต่อสู้ตำรวจอาจเกิดความสูญเสียขึ้นได้ การฝึกจะเป็นการลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้สัมฤทธิ์ผล
ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้นำแนวนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มาขับเคลื่อนให้กำลังพลผู้ปฏิบัติงานมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกยิงปืน ฝึกยุทธวิธีต่าง ๆ การฝึกทบทวนประจำสัปดาห์ ตลอดจนการส่งกำลังพลเข้าร่วมแข่งขันการฝึกที่ ตร.จัด ขึ้น เพื่อให้กำลังพลมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ลดการสูญเสีย และมีผลสัมฤทธิ์สูงสุดต่อไป