ความคืบหน้ากรณี กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย สมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น
ล่าสุด (19 ก.ค.66) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำร้องไว้พิจารณา และวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพของ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ พร้อมสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
โดยเนื้อหาใจความสำคัญคือ ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสี่ ประกอบวรรคหนึ่ง และ พ.ร.ป ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 75 โดยให้ นายพิธา ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 54
สำหรับคำขอของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้นายพิธา ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรค 2 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้อง ประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายพิธา อาจก่อให้เกิดปัญหาข้อกฎหมายและการคัดค้านโต้แย้ง เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานสำคัญของที่ประชุมรัฐสภา และที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ จึงมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค 66 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
เมื่อเวลา 11.10 น. พบว่า นายพิธา เดินออกจากห้องประชุมสภาทันที หลังศาล รธน. มีมติสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว