วัดพระบาทน้ำพุ สร้างบ้านให้ลิงลพบุรี
หวังบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวลพบุรี อีกทางหนึ่ง
เมื่อวันพุธ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เมื่อเวลา 08.09 น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ได้ถือ ฤกษ์ เปิดบ้านลิงลพบุรี เป็นทางการ
สืบเนื่องจากสภาพปัญหาจำนวนประชากรมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ทั้งในตัวเมือง บริเวณตลาดร้านค้า ตึกแถวบ้านเรือนของประชาชน เบื้องต้นคาดว่ามีประชากรลิงที่อยู่ในเขตเทศบาลเมือง 2,206 ตัว โดยมีลิงจำนวนหนึ่งได้เข้ายึดอาคารบ้านเรือนของประชาชน รวมถึงมีการแย่งชิงอาหารระหว่างกลุ่มลิงด้วยกัน ที่ถูกนำเสนอจากสื่อสำนักต่างๆ นั้น
พระราชวิสุทธิประชานาถ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี เปิดเผยว่า กล่าวว่า วัดพระบาทน้ำพุ เป็นสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ลิงเหล่านั้นได้เข้าพักอาศัยเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ลิง มาเป็นระยะเวลากว่าสิบปี วันเวลาที่ผ่านมาผู้ที่เข้ามาทำบุญให้แก่ผู้ป่วยโรคเอดส์ สมาชิกผู้ติดเชื้อเอชไอวี คนพิการ และคนชรา ประชาชนที่ผ่านไปมาก็ต่างมีความเมตตาเผื่อแผ่ไปยังลิงเหล่านี้ด้วย จึงมีความคิดว่าเราต้องช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเมืองลพบุรี ที่ลิงสร้างปัญหาต่างๆ ดังที่ทราบต่อเนื่องมา จึงได้สร้างเมืองลิงเพื่อรองรับสภาพปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืนในอนาคต ให้ลิงเหล่านั้นมีที่อยู่ ที่กิน ที่ออกกำลังกาย และเล่นน้ำ ให้ชีวิตเขาเหล่านั้นได้มีความสุขในระดับสมควร
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ทำการสำรวจลิงในวัดพระบาทน้ำพุ ระหว่าง วันที่ 5-7 กรกฎาคม 2566 พบว่ามีจำนวนทั้งหมด 371 ตัว และมีแนวคิดร่วมกันทำ MOU ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช วัดพระบาทน้ำพุ สำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลพบุรี เทศบาลเมืองลพบุรี เทศบาลเมืองเขาสามยอด ปศุสัตว์จังหวัดลพบุรี โรงพยาบาลอานันทมหิดล เพื่อแก้ปัญหาลิงในวัดพระบาทน้ำพุและพื้นที่จังหวัดลพบุรี เพื่อเป็นสถานที่ให้การศึกษาเกี่ยวกับลิง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธี เปิดบ้านลิง ที่วัดพระบาทน้ำพุ ลพบุรี มีอาจารย์วรวิทย์ วงษ์สุวรรณ อดีต สวย.ลพบุรี นางสมจิตต์ แต่งสมุด. นายเผด็จ ลายทอง ผอ.สำนักอนุรักษ์ สัตว์ป่ากรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ
พล.ต. ณัฐนนท์ ภุคุกะ ผอ.รพ.อ.ป.ร.
พระราชวิสุทธิประชานาถ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี
จะดำริ สร้างกรง หรือบ้านให้ลิงอยู่ ซึ่งทางวัดพระบาทน้ำพุ เอง ก็ได้รับความเดือดร้อน จากปัญหา สัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว และลิง แต่ที่สร้างปัญหามาก มายนั้น ก็เห็นจะเป็นลิง ที่มาอาศัยอยู่ ตามเขาตามยอด ซึ่งอยู่ติดกับ อาณาบริเวณวัด เพราะปีๆหนึ่ง
ลิงจะมาทำลาย หลังคา พระอุโบสถ กุฏิพระ และสิ่งก่อสร้าง เสียหายปีละหลายล้านบาท เลยมาคิดว่า เราควรจะสร้างบ้าน ให้ลิงมาอยู่เสียเลย จะได้ไม่ต้องออกไปเพ่นพ่าน ทำลายทรัพย์สิน อานาบริเวณวัด หรือไปทำลายพระพิมพ์ของชาวบ้าน ถึงแม้ว่า จะลงทุนอีกหน่อย ก็จะเป็นประโยชน์ กับ ลิง ในตัวเมืองลพบุรี โดยนำมา ไว้ที่บ้านลิง ของวัดพระบาทน้ำพุ เสียเลย นอกจาก จะกำจัดอานาบริเวณลิง จะเป็นแหล่งท่องเที่ยว แห่งใหม่ของจังหวัดลพบุรีอีกด้วย
จะไปทำร้าย ลิงก็ไม่ได้ เพราะเป็นสัตว์สงวน ทำร้ายก็ผิดกฎหมาย มีแนวคิดสร้างบ้านให้ลิงอยู่เป็นหลักเป็นแหล่งไปเลย
พระราชวิสุทธิประชานาถ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี เปิดๆเพิ่มเติมไปอีกว่า ทางวัดพระบาทน้ำพุ จะรับผิดชอบอบรมอาสาสมัครดูแลลิง เอามาดูแลลิงในบ้านแห่งนี้
อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เผยภายหลังร่วมทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือทางวิชาการเพื่อแก้ไขปัญหาลิงในเขตบริเวณเมืองเก่า อ.ลพบุรี จ.ลพบุรี ร่วมกับนายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี นายกฤติน หลิมตระกูล ผอ.สำนัก งานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลพบุรี
ลิงแสมเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 แต่ที่ผ่านมาพบความขัดแย้งระหว่างลิงกับคนในพื้นที่ชุมชนเนื่องจากลิงมีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่แหล่งที่อยู่อาศัยของลิงลดลง
ตัว แต่ยังติดขัดเรื่องการข้อกฎหมาย เพราะลิงเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามจับ ห้ามล่าต้องรอกกรมอุทยานฯ ไปช่วยจับทำหมันลิงได้ การทำข้อตกลงครั้งนี้จะบูรณาการร่วมกันแก้ปัญหาลิงลพบุรี
สำหรับข้อตกลงครั้งนี้ จะดำเนินการอย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ การสร้างกรงพักพิงลิง เพื่อปรับพฤติกรรมลิง และนำลิงที่ได้รับการทำหมันแล้วไปไว้ที่กรงพักพิงลิง เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายลิงไปดูแลในสถานอนุบาลลิง (สวนลิง) ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมืองลพบุรี
จะ นำลิงที่ได้รับการทำหมันแล้วไปไว้ที่กรงพักพิงลิง เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายลิงไปดูแลในสถานอนุบาลลิง (สวนลิง) ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมืองลพบุรี
คาดว่าจะจับลิงตรงเกาะกลางเทศบาลลพบุรีราว 500 ตัวไปไว้อนุบาลในกรงใหญ่ กรงย่อย ต.โพธิเก้าต้น และบางส่วนจะไปอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่านครนายกโดยลิงจะต้องทำหมันก่อน
นายอรรถพล ยอมรับว่าก่อนหน้านี้การจับลิงลพบุรี โดยเฉพาะบริเวณเทศบาลเมืองลพบุรี ปรางค์สามยอด รวมทั้งศาลพระกาฬ ซึ่งเป็นจุดขายในการท่องเที่ยวในอดีต จะมีทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้าน แต่ตอนนี้ทุกภาคส่วนมีความเห็นตรงกันแล้วว่าจะต้องย้ายลิงออก เพราะจากการลงพื้นที่ชุมชน ร้านค้าได้รับความเดือดร้อนหนักมาก
ก่อนหน้านี้กรมอุทยานฯ เริ่มย้ายลิงนำร่อง จ.เพชรบุรี 500 ตัว และแห่งที่ 2 จ.ลพบุรี และกำลังจะเริ่ม อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ทั่วประเทศพบจุดที่มีลิงอาศัยอยู่ 52 แห่ง และมีประชากรลิงราว 30,000-50,000 ตัว
ความคิดของลิงในการแย่งสิ่งของอยู่ในระดับไม่ธรรมดา เพราะลิงเรียนรู้พฤติกรรมมนุษย์จนสามารถเข้าใจได้ว่า แม้โทรศัพท์จะกินไม่ได้ แต่สามารถใช้เป็นตัวประกันเพื่อรอให้คนเอาอาหารมาไถ่ได้ นี่จึงเป็นความซับซ้อนเหมือนการรับมือกับเด็กอายุ 3-6 ขวบที่เคลื่อนไหวได้เร็วเหนือมนุษย์
เมื่อถูกถามว่า อยู่กับลิงมาขนาดนี้ ถ้าพูดกับลิงรู้เรื่องจะบอกลิงว่าอะไร ป้าเพ็ญหัวเราะแล้วบอกว่า “อย่าดื้อ อย่าซน” ในจังหวะเดียวกันที่ลิงตัวเล็กของฝูงดึงสายรัดของบนรถมอเตอร์ไซค์ป้าไปแล้ว
“ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรนะ ป้าเกิดมาลิงก็อยู่ที่นี่แล้ว” ป้าเพ็ญทิ้งท้ายบทสนทนา ในระหว่างบรรทัด ป้ากำลังหมายถึงว่า เมื่อลิงอยู่มาก่อนคน เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกัน
หากมาดูที่ตัวเลขจำนวนประชากรลิง มีการสำรวจโดยส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (สาขาสระบุรี) ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่นับไว้เมื่อปี 2566 ระบุว่ามีลิงในเมืองลพบุรีจำนวน 2,206 ตัว ซึ่งลดลงจากที่นับไว้เมื่อปี 2561 ตอนนั้นนับได้ 3,121 ตัว
ลิงตึกที่เราเห็นกันในยามสัญจรนั้น เป็นเพียงหนึ่งในลิงเจ็ดกลุ่มที่อาศัยอยู่ในเมืองลพบุรีเท่านั้น โดยทางส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ แบ่งลิงออกเป็นกลุ่มดังนี้ (1) ปรางค์สามยอด (2) มาลัยรามา (3) ตลาดมโนราห์ (4) โรงแรมเมืองทอง (5) ร้านชโยวานิช (6) ร้านเซ่งเฮ็ง (7) วินรถตู้
แต่เมื่อมองในรายละเอียด ในลิงเจ็ดกลุ่มนี้สามารถเคลื่อนตัวหากันได้ จึงสามารถแบ่งออกเป็นสี่โซนหลัก คือ (1) ศาลพระกาฬ (2) ปรางค์สามยอดและมาลัยรามา (3) ตลาดมโนราห์และโรงแรมเมืองทอง (4) ร้านชโยวานิช ร้านเซ่งเฮ็ง และวินรถตู้
ตัวเลขประชากรลิง 2,000-3,000 ตัวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ ขยายตัวขึ้นมาจากในอดีต หากนับตั้งแต่ปี 2543 ก่อนการสร้างโรงพยาบาลลิงในสวนสัตว์ลพบุรีขึ้นมา ตอนนั้นมีลิงในเขตเมืองเก่าประมาณไม่เกิน 600 ตัวเท่านั้น และจำกัดบริเวณอยู่ที่ศาลพระกาฬและปรางค์สามยอด
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้ อำนวยการ ศูนย์ข่าวภาคกลาง หนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ