ขอย้อนอดีตสู่ปัจจุบัน ขอเปิดตำนานศักดิ์สิทธิ์
พระเจดีย์ทรงเรือมรรคสัจจ์ วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ที่มีอายุกว่าร้อยปี
ผู้ใดมากราบไหว้ผู้นั้นจะร่ำรวยร้อยล้านพันล้าน
ศูนย์ข่าวภาคกลาง หนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ ขอหยิบยกบทความของอาจารย์ภูธร ภูมะธน
จากหนังสือ เรื่องลำน้ำบางขามและอำเภอท่าวุ้งที่น่ารู้
ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ
พระเจดีย์ทรงเรือมรรคสัจจ์ วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา สร้างบนภูเขาบริเวณเขตพุทธาวาสเก่า ซึ่งมีโบสถ์ (เก่า) และวิหาร (เก่า) ตั้งใกล้เคียง ข้อมูลซึ่งระบุในหนังสือชื่อ ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร พิมพ์เผยแพร่โดยกรมการศาสนาระบุประวัติวัดถ้ำตะโกว่าบริเวณนี้มีถ้ำ ป่า และภูเขา พระอธิการเภา พุทธสโร
คือผู้สถาปนาพื้นที่นี้ให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๔๖ ต่อมาจึงได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาให้เป็นวัดเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๑
พระอธิการเภา พุทธสโร #สร้างพระเจดีย์ทรงเรือมรรคสัจจ์ ที่วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔ เป็นเรือสำเภาแบบไทย คือหัวเรือเรียวแหลม กราบเรืออ่อนโค้ง มีประทุนท้ายเรือ กลางเรือสำเภามีที่ตั้งพระเจดีย์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับเจดีย์แบบล้านนาซึ่งน่าจะเป็นการจำลอง พระมหาธาตุเจดีย์วัดพระธาตุหริภุญไชยเมืองลำพูน
พระอธิการเภา (หรือเพา) พุทธสโร คือพระสงฆ์รูปสำคัญผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาก ท่านเคยธุดงค์ถึงประเทศพม่า ฉะนั้น รูปแบบศิลปกรรมล้านนาและพม่า จึงปรากฏในวัดถ้ำตะโก
ความโดดเด่นพระเจดีย์ทรงเรือมรรคสัจจ์ที่พระอธิการเภา พุทธสโร สถาปนาไว้ เมื่อ กว่าหนึ่งศตวรรษก่อน ที่ไหล่เขาวัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ตำบลเขาสมอคอน จึงเป็นนิมิตหมายให้พุทธศาสนิกชนระลึกทุกครั้งที่พบเห็นว่า หากปฏิบัติตนตามหลักธรรมคำสั่งสอนของ พระพุทธเจ้าแล้ว วิญญูชนผู้ปฏิบัติจักได้รับโอกาสพ้นจากทุกข์และเดินสู่ทางพระนิพพานได้
ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ ลงพื้นไปที่
วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ตำบลเขาสมอคอน อำ้ภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2567 ช่วงเวลา 08.00 น
ไปสอบถามประชาชน ในบริเวณ
วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ว่า ที่นี่มีความศักดิ์สิทธิ์
ผู้ใดมากราบไหว้
พระเจดีย์ทรงเรือมรรคสัจจ์ ท่านจะได้ร่ำรวยเงินร้อยล้านพันล้าน มีผู้คนมาขอแล้วได้สมใจปรารถนา
ขอให้ธุรกิจก็ได้ธุรกิจคนละรุ่งเรืองขอการงานก็ได้สมหวัง.ตั้งใจไว้
ที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มากอยู่คู่วัดนี้มานานกว่า 100 ปีแล้ว ตำนานศักดิ์สิทธิ์เล่ากันไม่หมดเพราะมันยาว
จะหยิบยก มาเล่า บางเรื่องให้ฟังก่อน ย้อนไปในสมัย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ 5 เมื่อสมัยก่อนไม่มีถนนในปัจจุบัน มีแต่แม่น้ำลำคลองเท่านั้น
มีเรื่องเล่าว่า
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาส ทางเรือ ร่องมาจากแม่น้ำลพบุรี
ท่านได้พบวัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ที่มีอายุกว่าร้อยปี
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินทรงสักการะ พระเจดีย์ทรงเรือมรรคสัจจ์ และ
ได้ทอดพระเนตร
ทรงห่มผ้าพระเจดีย์ทรงเรือมรรคสัจจ์ วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ลพบุรี
ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์จารึกเอาไว้ประชาชนและชาวบ้านเล่าขานมาต่อๆกันมา
หลวงพ่อเภา พุทธสโร วัดถ้ำตะโก จ.ลพบุรี
“พระพุทธสราจารย์” หรือ “หลวงพ่อเภา พุทธสโร” วัดถ้ำตะโก ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี พระเกจิชื่อดังที่ชาวบ้านย่านตำบลเขาสมอคอน ต่างให้ความเลื่อมใสพศรัทธากันมาก
เกิดเมื่อปี พ.ศ.2415 ที่บ้านใต้วัดอินทาราม อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ โยมบิดา ชื่อ นายขำ โยมมารดา ชื่อ นางแสง เมื่ออายุ 6 ขวบ บิดามารดานำไปฝากเรียนหนังสือที่สำนักพระอธิการคง วัดอินทาราม พยุหะคีรี จนถึงอายุ 11 ขวบ จึงได้บรรพชา และศึกษาพระปริยัติกับพระอาจารย์คงจวบจนอายุ 20 ปี (พ.ศ.2435) เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดเขาแก้ว อ.พยุหะคีรี โดยมีหลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์คง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์รับ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
จำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อเทศ พระอุปัชฌาย์ ที่วัดสระทะเล ในช่วง 12 ปีแรก ศึกษาพระปริยัติธรรม 2 ปีต่อมา ขออนุญาตพระอุปัชฌาย์เดินทางไปเรียนพระปริยัติที่สำนักวัดทุ่งแก้ว จ.อุทัยธานี ของเจ้าคุณพระสุนทรมุนี (ใจ คงคสโร) ซึ่งเป็นสำนักที่ลือชื่ออยู่ในขณะนั้น และเมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ท่านเดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรมอยู่ที่สำนักวัดทุ่งแก้วอยู่ 3 พรรษา ต่อมาเดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ ศึกษาอยู่กับสำนักเจ้าคุณศรีวิสุทธิวงศ์ (เหลียน) วัดสุทัศนเทพวราราม อีก 3 พรรษา
กระทั่งถึง พ.ศ.2442 จึงได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดอินทาราม อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ อันเป็นภูมิลำเนาเดิม และช่วยพระอธิการคงแสดงธรรมและสอนพระปริยัติธรรมแก่พระภิกษุ-สามเณรในวัดอินทารามอยู่ 2 ปี
จนถึง พ.ศ.2445 มีจิตใจมุ่งในทางวิปัสสนากัมมัฏฐาน จึงออกธุดงค์ไปตามสถานที่วิเวก เพื่อปฏิบัติกัมมัฏฐาน
ประมาณ พ.ศ.2446 เดินทางจากวัดท่าโขลง โดยข้ามคลองบางขามมาทางทิศตะวันออก ประมาณ 4 กิโลเมตร ได้ไปพบสถานที่แห่งหนึ่งอยู่ที่บ้านพราน ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี มีสภาพเป็นวัดร้างเก่าแก่มาแต่โบราณ มีซากอิฐเก่าปรากฏอยู่ ที่หน้าถ้ำมีต้นตะโกอยู่ต้นหนึ่ง จึงเรียกกันว่า “ถ้ำตะโก”
มรณภาพอย่างสงบ ที่วัดเขาวงกต ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2474 เวลา 02.00 น. สิริอายุ 60 ปี พรรษา 40
ผู้ใดมากราบว่าบูชา
พระเจดีย์ทรงเรือมรรคสัจจ์ ท่านจะได้ส่งสมปรารถนาที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งใจจะได้เงินแสนล้านร้อยล้านพันล้านได้ดั่งสมใจ ตั้งจิตอธิษฐานถ้าด้านธุรกิจการงานเจริญรุ่งเรืองส่งปรารถนาทุกประการรองมากราบไหว้ดู
วัดอยู่ติดกับภูเขา มีศาสนสถานทางบริเวณด้านล่างและด้านบนภูเขา ปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมภายในบริเวณถ้ำระฆังจึงทำให้มีผู้คนเข้าออกอยู่ตลอดทั้งวัน มีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนไม่มาก แต่มีต้นไม้ขนาดกลางอยู่จำนวนมากจึงทำให้มีความร่มรื่นเป็นบางพื้นที่ บริเวณภายในวัดยังมีลิงอาศัยอยู่จำนวนมากจึงทำให้บางพื้นที่มีใครอยากจากการให้อาหารลิง เพราะมีคนนำอาหารลิงมาให้อยู่ตลอด
สามารถทำบุญข้าวสาร
แก่วัดกระสอบละ 800บาท และน้ำดื่ม
หรือ ตามกำลังศรัทธา ด้วยการโอนทำบุญผ่านธนาคารบัญชีวัด โดยตรงได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาท่าวุ้ง ชื่อบัญชี วัดถ้ำตะโก เลขบัญชี 1460057082 ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทางวัด ที่ เบอร์โทร. 0905010146
นันท์นภัส ลิ้มนุสนธิ์
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลาง หนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ