วันศุกร์ ที่ 24 มกราคม 2568 สถานเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กรุงเทพฯ
พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมคณะอนุกรรมาธิการด้านกิจการทหาร ว่าที่พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ , ประธานอนุกรรมาธิการด้านกิจการทหาร และอนุกรรมาธิการ เดินทางไปหารือข้อราชการกับ พลเรือตรี หวัง เจิ้ง ผู้ช่วยทูตทหารสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ณ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
เนื่องในวาระโอกาสที่ปีนี้เป็นปีแห่งการครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการระหว่างสาธารณะรัฐประชาชนจีน และราชอาณาจักรไทย โดยเมื่อปี 2565 ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ได้มาเยือนประเทศไทย และได้พบปะหารือกับผู้นำของไทย โดยบรรลุสันทามติหลายประการ ซึ่งจะเป็นการผลักดันความสัมพันธ์ จีน-ไทย ก้าวสู่ยุคใหม่ ของการสร้างประชาคม ที่มีอนาคตร่วมกัน และนับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ความสัมพันธ์ไทย-จีน ยังคงรักษาแนวโน้มการพัฒนาที่ดี และบรรลุความก้าวหน้าครั้งใหม่ที่สำคัญในหลายด้าน รวมถึงการแลกเปลี่ยนทวิภาคีที่สำคัญจากการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือด้านต่างๆตามกรอบกรอบความร่วมมือ ของการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศทั้งสอง ที่มีความใกล้ชิดกันอย่างรอบด้าน และมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ความร่วมมือในมิติต่างๆระหว่างทั้งสองประเทศมีแนวโน้มในการพัฒนาพัฒนาที่ดีเพื่อ มุ่งสู่เป้าหมายในการเสริมสร้างประชาคม ไทย-จีน ที่มีอนาคตร่วมกัน และเขียนบทความใหม่ของคำกล่าวที่ว่า “จีน-ไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ภายใต้ยุคสมัยใหม่
สำหรับประเด็นหารือ โดยแยกเป็น 6 ประการด้วยกัน

ประการที่หนึ่ง เนื่องในโอกาสที่ปีนี้ เป็นปีแห่งการครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและไทย
ประการที่สอง เพื่อดำรงรักษ์รักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด
ประการที่สาม เพื่อขยายผลจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด สู่ความเป็นความร่วมมือระหว่างกัน
ประการที่สี่ เพื่อแลกเปลี่ยนความร่วมมือให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคง ที่มีความสำคัญหลายประเด็น ที่จะนำมาซึ่งความร่วมมือระหว่าง กองทัพไทย กับกองทัพจีน
ประการที่ห้า เพื่อขยายผลการแลกเปลี่ยนความร่วมมือ ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจากการฝึกซ้อมร่วมกันของ กองทัพจีน กับกองทัพนานาชาติ โดยมีกองกำลังจากหน่วยวิชาการภาคสนามต่างๆเข้าร่วม
ประการที่หก เพื่อพิจารณาพิจารณาแนวทางการแลกเปลี่ยนความร่วมมือ ในอนาคตซึ่งล่าสุด กองทัพจีน ได้เปิดหลักสูตรเกี่ยวกับด้านการแพทย์ทหาร ในการช่วยเหลือและการป้องกันอาวุธเคมี
ทั้งนี้การหารือทั้งสองฝ่ายเป็นไปตามกรอบ ด้านการทหาร ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง เพื่อพัฒนาสู่การเป็นหุ้นส่วนในภูมิภาคที่มั่นคง ต่อไป



























