ในประเทศไทยพบว่าปัญหาการใช้บุหรี่ไฟฟ้านับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีประกาศกระทรวงพาณิชย์ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2557 รวมถึงมีคำสั่งของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558
และ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มีโทษปรับ 5,000 บาทสำหรับผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะที่ห้ามสูบเช่นเดียวกับบุหรี่ธรรมดา
ก็ยังพบว่ามีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอยู่อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุ่งเป้ากลุ่มเด็กและเยาวชนผ่านช่องทางออนไลน์
ในพื้นที่จังหวัดลพบุรีก็เช่นกันเกิดปัญหาระบาดอย่างหนักในกรณีบุหรี่ไฟฟ้าได้ขายเกลื่อนเมืองยิ่งจับยิ่งเพิ่ม มันแทรกซึมไปอยู่ที่หน้าสถาบันการศึกษายิ่งหนักเปิดร้านตรงข้ามโรงเรียนทำให้เยาวชนเข้าถึง ง่ายขึ้นและจับปราบยากขึ้นรูปแบบ บุหรี่ไฟฟ้ามันพัฒนาไปเรื่อยๆหนีการจับกุม ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองลพบุรีและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลพบุรี ได้ประสานมือลงจับกุมปราบปรามอย่างจริงจังแต่จับไปแล้วก็ไปเปิดร้านใหม่หนีเจ้าหน้าที่ไปเรื่อยๆเหมือนแมวจับหนู นั่นเอง
แต่ระบบการปราบปรามนั้นไม่จริงจัง เป็นกระแสข่าวแล้วออกจับทีการจับนั้นการสร้างภาพไปเรื่อยๆไม่จริงจังเจ้าของร้านไม่โดนคดีตามกฎหมายสักราย ตอนจับแล้วรุ่งขึ้นก็มาเปิดร้านเหมือนเดิมทำแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถึงอันตรายที่ไม่ควรมองข้ามจากฝุ่นควันที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าว่า นอกจากมีนิโคตินที่เป็นสารเสพติดอย่างรุนแรงเลิกยากแล้ว
ยังมีสารที่เป็นอันตรายทั้งโลหะหนักและสารก่อมะเร็งต่างๆ รวมถึงมีสารที่มีขนาดเล็กจิ๋ว PM2.5 อยู่ในควันบุหรี่ไฟฟ้า แต่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพียงไอน้ำที่ส่งกลิ่นหอม โดยไม่คาดว่ากลิ่นหอมนั้นจะประกอบด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ที่จะส่งผลต่อสุขภาพ ทั้งในระยะสั้น ระยะยาว และส่งผลต่อพัฒนาการด้านสติปัญญาของเยาวชน
นอกจากนี้ พบว่าผู้ที่ต้องสูดดมควันจากบุหรี่ไฟฟ้า โดยไม่ได้ตั้งใจแม้จะไม่ได้เป็นผู้เสพเองโดยตรง ก็จะได้รับอันตรายจากสารอันตรายในบุหรี่ไฟฟ้าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
การแพร่ระบาดของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าไปทั่วโลก ทั้งทึ่ถูกสร้างมาไม่ถึง 20 ปีนั้นคาดว่าเกิดจากการ ถูกโฆษณาให้เข้าใจผิด คิดว่าเป็นทางเลือกใหม่ในการช่วยเลิกบุหรี่ที่มีอันตรายน้อย
ปัจจุบันได้ระบาดอย่างหนักในเมืองไทยทุกพื้นที่ทั่วไทยเหมือนที่จังหวัดลพบุรีก็ระบาดตามสถานการศึกษาถึงตลาดนัดเปิดร้านตั้งบุหรี่ไฟฟ้าตู้กระจกโชว์อย่างไม่กลัวกฎหมาย เป็นข่าวทีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลพบุรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจออกจับทีไม่เป็นข่าวก็ปล่อยเอาไว้เรื้อรังจนถึงปัจจุบันยิ่งปราบปรามมากเท่าไหร่ก็มากขึ้นเท่านั้น
คาดว่าอาจเป็นเพราะในช่วงแรกยังไม่มีงานวิจัยที่แน่ชัดมารองรับถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าเพราะยังเป็นของใหม่ จึงเป็นช่องทางโฆษณาว่ามีอันตรายน้อย รวมถึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของผู้ขายที่ต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเยาวชนหญิงให้มีทั้งกลิ่นหอมและรูปลักษณ์ที่น่าใช้น่าลอง ทำให้เกิดการระบาดอย่างหนักในหมู่เยาวชน
แทนที่จะถูกใช้อยู่ในเฉพาะกลุ่มผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ โดยในสหรัฐอเมริกาพบว่ามีอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน อายุ 14 – 17 ปีเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า ภายในเวลา 7 ปี จากปี ค.ศ. 2011 – 2018 มีอัตราการสูบจากร้อยละ 1.5 ไปเป็นมากกว่าร้อยละ 20
ปัจจุบันมีรายงานการวิจัยบ่งชี้ถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้านับพันชิ้นเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อสิบปีก่อน มีทั้งการเพิ่มโอกาสของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง รวมถึงโรคปอดอักเสบรุนแรง
โดยเฉพาะเมื่อปี พ.ศ. 2562 – 2563 พบจำนวนผู้เสียชีวิตจากการเสพบุหรี่ไฟฟ้าด้วยโรคปอดอักเสบรุนแรงกว่า 60 รายในสหรัฐอเมริกา โดยอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยน้อยกว่า 30 ปี ทำให้เกิดการยกระดับการรณรงค์ป้องกันการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในวัยรุ่นอย่างจริงจังผ่านช่องทางที่เข้าใจง่าย ทำให้อัตราการสูบในเยาวชนลดลงได้บ้าง
สาเหตุที่ต้องปกป้องกลุ่มเด็กและเยาวชนเพราะพบว่าสารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้ามีผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญาและอารมณ์ พบว่าผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีภาวะซึมเศร้ามากกว่าผู้ไม่สูบสองเท่า นอกจากนี้การเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินเลิกยากมาก โดยพบว่านิโคตินมีผลการเสพติดเทียบเท่ากับเฮโรอีน
และหากยิ่งเริ่มสูบในอายุที่น้อยมากเท่าใด จะยิ่งเพิ่มโอกาสกลายเป็นผู้ที่จะต้องเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าไปตลอดชีวิตมากขึ้น โดยพบว่าถ้ามีวัยรุ่นเสพติดนิโคติน โอกาสในการเลิกตลอดทั้งชีวิตจะมีเพียง 3 ใน 10 คนเท่านั้น
อาจจะเป็นเพราะยังขาดการรณรงค์กันอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้ยังไม่สามารถทำลายกำแพงแห่งความเชื่อผิดๆ ที่ว่า ‘บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่บุหรี่ และไม่มีอันตราย’ ได้
ที่น่ากังวล คือ แม้แต่ในกลุ่มครูและผู้ปกครองเองหลายท่านยังไม่ทราบว่าลูกหลาน ลูกศิษย์กำลังเสพบุหรี่ไฟฟ้า เพราะมีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนขนม แฟลชไดรฟ์ หรือเครื่องดื่ม และอาจจะยังไม่รู้ถึงอันตรายที่จะเกิดกับตัวเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงผู้ที่อยู่รอบข้าง ทำให้การสอดส่องห้ามปราบไม่ชัดเจน
จึงขอเรียกร้องให้ทางรัฐบาลเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการกระจายความรู้เรื่องพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าให้มากยิ่งขึ้น และต้องทำความเข้าใจให้ผู้บังคับใช้กฎหมายได้เห็นความจำเป็นในดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อส่งสัญญาณการปกป้องเยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนหญิงจากการล่อลวงของคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งใช้ช่องทางต่างๆ ซึ่งผิดกฎหมายทั้งสิ้นจำหน่ายสินค้าทำลายสุขภาพนี้
แม้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าจะเลิกยาก แต่ไม่เกินกำลังของผู้ที่ตั้งใจจริง ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ตั้งใจเลิกทิ้งบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เพื่ออนาคตที่ดีกว่าเสียตั้งแต่วันนี้ สามารถติดต่อสายด่วนเพื่อการเลิกบุหรี่ได้ที่เบอร์ 1600
ล่าสุดเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ได้มีคำสั่งจากท่านนายกรัฐมนตรี
posttoday
หน้าแรก
การเมือง
นายกฯแพทองธารสั่งกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้ากลางครม.รายงานผลใน15วัน
นายกฯแพทองธารสั่งกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้ากลางครม.รายงานผลใน15วัน
25 กุมภาพันธ์ 2568
แชร์
นายกฯแพทองธาร สั่งการกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า มอบ จิราพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ดำเนินการด่วน รายงานผลใน15วัน บังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด ข้าราชการละเว้นไม่ดำเนินการต้องถูกลงทัณฑ์สกัดการแพร่ระบาดในเด็กและเยาวชน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานการจับกุมร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ สน.คันนายาว และ สน.โคกคามและรายงานธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้าทั่วประเทศแล้ว และสั่งการว่าในการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งปัจจุบันมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของเยาวชน นักเรียน และนักศึกษา
ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ทาง ก.คลัง ก.พาณิชย์ ก.มหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดนั้น
แต่กลับพบว่าปัญหาดังกล่าวก็ยังไม่หมดไปแะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการนจัดการกับบุหรี่ไฟฟ้า ออกกวาดล้างจับกุม และการแก้ไขปัญหาระยะยาวโดยให้ เร่งแก้ไขข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีบทลงโทษที่ชัดเจนและรุนแรงมากยิ่งขึ้น และขอให้กลับมารายงานต่อนายกรัฐมนตรีภายใน 15 วัน
มองกลับทางจังหวัดลพบุรี มีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี( นายอำพล อังคภากรณ์กุล
)
จะขานรับนโยบายนายกฯ สั่งคุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้า ย้ำกลุ่มเสี่ยงเด็ก เยาวชน ใกล้โรงเรียน สถานศึกษา ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าสะบัดอย่างหนักในจังหวัดลพบุรี อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ปราบปรามอย่างจริงจัง การจับกุมให้จับกุมทุกมิติ ไม่ต้องหวั่นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดลพบุรีใครหนุนหลัง ให้จับอย่างจริงจังและอยากฝากถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรีสั่งลูกน้องออกจากกลุ่มอย่างเข้มงวดอย่าปล่อยเอาไว้นานเรื้อรังซึ่งเป็นภัยต่อเยาวชนและเด็กนักเรียนลูกหลานของท่าน
ศูนย์ข่าวภาคกลาง หนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
ตั้งข้อสังเกต
ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนมากจะมีที่ควรสังเกตุ หน้าร้านจะติดฟิมล์ดำ-บรอนซ์เงิน ไม่มีชื่อร้านค้า แต่จะมีป้ายไฟฟ้าสี่เหลี่ยมผื้นผ้าเล็กๆถ้าเปิดขายจะเปิดไฟ open ถ้าปิดก็ดับไฟครับ
ฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลพบุรี ลงพื้นที่ตรวจขันให้มากกว่านี้เข้มข้นมากกว่านี้ปราบปรามให้จริงจัง ท่านมีลูกหลานให้ห่างไกลบุหรี่ไฟฟ้าให้ทางจังหวัดลพบุรีปลอดภัยขาวสะอาดไม่ให้มีบุหรี่ไฟฟ้าจำหน่ายในลพบุรี ผลัดกันให้ออกจากจังหวัดลพบุรีอย่างจริงจังอย่าปล่อยไว้นาน
ศูนย์ข่าว ภาคกลาง หนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ สำนักข่าวข่าวสืบสวน
ขอฝาก ผู้รับผิดขอบต้องบูรณาการ มองเห็นและจัดการ อย่าปล่อยว่าธุระไม่ใช่นะครับผม สงสารยุวชน เยาวชน ต้นทางคือ ศุลกากร ต้องจัดการและกำจัดพร้อมทำลาย สรรพสามิต ต้องไม่นิ่งดูดาย ต้องบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเมืองลพบุรี
และเป็นกำลังใจให้ตลอดนะครับ
ขอตบมือดังๆให้กับ
นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ขานรับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย
เร่งด่วน กวาดล้าง บุหรี่ไฟฟ้า และ
สั่งการให้พันจ่าเอกสมศักดิ์ ธนันทา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายผดุงเกียรติ บุญคง เจ้าหน้าที่ปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินอำเภอเมืองลพบุรี ที่1 ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอเมืองลพบุรี ร่วมบูรณาการ ที่ทำการปกครองจังหวัดลพบุรี โดยนายยศวิน บำรุงเวช ป้องกันจังหวัดลพบุรี นายฐิติพงษ์ พยัคพันธ์ นายธัชวิชญ์ คัมภีร์พงศ์ ผู้ช่วยป้องกันฯ
และ สภ.เมืองลพบุรี ร่วมภารกิจจัดระเบียบสังคมลพบุรีขาวสะอาดไม่ให้มีบุหรี่ไฟฟ้าจำหน่าย
การมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน และอบายมุขต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี ตามข้อร้องเรียนจากประชาชน
ในการนี้ได้ จับกุม ร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน ๑ แห่ง ผู้ต้องหา ๑ ราย พบของกลางหลายรายการ อาทิ บุหรี่ไฟฟ้าหลายรายการ และน้ำยาบุหรึ่ไฟฟ้า รวม จำนวน 1,308 ชิ้น ทั้งนี้ขณะจับกุมยังพบ นักเรียนนักศึกษา เข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง
บุหรี่ไฟฟ้าแพร่ระบาดอย่างหนักในจังหวัดลพบุรี
ให้จับให้มากกว่านี้อย่าปล่อยเอาไว้นานเยาวชนของชาติจะติดงอมแงม เพราะหาซื้อง่ายๆเหมือนร้านสะดวกซื้อตั้งจุดไหนก็ซื้อง่ายขึ้นเหมือนขนมให้ออกมากวดขันให้มากกว่านี้ออกจับกุมให้มากกว่านี้อย่าปล่อยเอาไว้นานฝากเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายปกครองเมืองลพบุรีตลอดถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองลพบุรีให้ออกมาตรวจขายให้มากกว่านี้ฝากผู้ใหญ่จังหวัดลพบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยอย่า นั่งในห้องแอร์รอรายงานขึ้นไปหาเราต้องลงพื้นที่เองตรวจสอบเองถึงจะดี
ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ สำนักข่าวข่าวสืบสวน จากเกาะติด ติดตามความคืบหน้าการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าลพบุรีให้ออกจากลพบุรีให้รวยไว จะติดตามความคืบหน้าและสถานการณ์ต่อไปจะนำรายงานความคืบหน้ารายงานให้ทราบภายหลัง
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการ ศูนย์ข่าวภาคกลาง หนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ














