สุดเจ๋ง!
ตำรวจภูธรท่าหิน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี สร้างสายตรวจตำรวจปั่นจักรยาน ออกตระเวนดูแลนักท่องเที่ยว
และพื้นที่ซอกซอย เฝ้าระวังภัยอาชญากรรมในพื้นที่
ในช่วงใกล้เทศกาลวันสงกรานต์เสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว
ให้ความปลอดภัย ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่
เมื่อเวลา 13.00 นาฬิกา ในวันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568
ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ รายงานข่าวว่า
พบเห็น สายตรวจตำรวจปั่นจักรยาน ออกตระเวนดูแลนักท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวนารายณ์ราชนิเวศน์
และพื้นที่ซอกซอย เฝ้าระวังภัยอาชญากรรมในพื้นที่ และ
ในช่วงใกล้เทศกาลมหาสงกรานต์ประจำปี 2568 เสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว
และให้ประชาชนชาวลพบุรีปลอดภัยในเรื่องอาชญากรรม
และบริการประชาชนอย่างทั่วถึง ทุกจุด ทุกมุม ทุกซอกซอยที่เข้าถึง และสะดวก โดยมีจักรยานเป็นพาหนะปั่นได้ทั้งหมู่บ้าน และตามซอกซอยต่างๆในพื้นที่ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่อย่างเต็มความสามารถ
ภายใต้นโยบายโดย
พ.ต.อ.ทัชวัฒน์ สายโยธา
ผกก.สภ.ท่าหิน
ได้ก่อตั้ง สายตรวจจักรยาน ตำรวจภูธรท่าหิน ลพบุรี บริการนักท่องเที่ยวป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่อีกทางหนึ่ง
สนองนโยบาย
ร้อยตำรวจเอก ธรรศกร ธรรศธรณิน หัวหน้าชุดสายตรวจจักรยานฯ
หนึ่งเดียวในลพบุรี เป็นที่แรกของภาคกลาง ที่มีสายตรวจจักรยาน
“ผมไม่เสียใจเลยที่เลือกเป็นตำรวจ”ร้อยตำรวจเอก ธรรศกร ธรรศธรณิน
ตร.นักปั่นจักรยานสายตรวจ หนึ่งเดียวในลพบุรี อายุ 58 ปี
หรือที่ใครๆเรียกว่า หมวดขุนแผน
หรือหมวดหน้าขาว
ยังคงปั่นจักรยานเสือภูเขาคู่ใจออกปฏิบัติหน้าที่บนถนนหน้าพระปรางค์สามยอด ตลอดถึง พื้นที่ ตำบลพรหมมาศ
อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
ชายผิวเกรียมแดดในเครื่องแบบชุดนักปั่นจักรยานสีน้ำเงินอ่อนตีตราโล่ตำรวจ
ออกแรงปั่นจักรยานฝ่าเปลวแดดวันละไม่ต่ำกว่า 50 กิโลเมตร อำนวยความสะดวกให้นักปั่นได้ใช้เลนจักรยานอย่างปลอดภัย หามาป้องปรางปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่อย่างสงบ
อย่างเข้มงวด จนได้รับฉายาจากชาวบ้านว่า “ตำรวจนักปั่นจักรยาน”
ตำรวจนายนี้ติดดิน เข้าถึงประชาชน ปากหวาน มีฉายาว่าขุนแผนทำให้ใครๆก็หลงรักตำรวจนายนี้ไปเลย
“ร้อยตำรวจเอก ธรรศกร ธรรศธรณิน
เปิดใจกับ ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
ทำงานตามปกติ การปั่นจักรยานเป็นการเข้าหาประชาชน เข้าหามวลชน ไม่ใช่ว่านั่งอยู่โรงพักแล้วให้ประชาชนวิ่งเข้ามาหา มันไม่ถูกต้อง ผมก็ปั่นไปเรื่อย ไปไหนก็เจอนักปั่นจักรยานสวนกันก็ทักทายกัน เหมือนอย่างเขาบอกว่าคนปั่นจักรยานไม่มีชนชั้น จะรวยจะจนเมื่อคุณปั่นจักรยาน ทุกคนเท่ากันหมด ไม่มีใครเหนือกว่าใคร
คิดอย่างไรที่ยุคนี้ประชาชนมองภาพลักษณ์ตำรวจในแง่ลบ
ยุคนี้ถือว่าภาพลักษณ์ตำรวจเสียหายมาก เสียหายเฉพาะบุคคลนะ ไม่ใช่ภาพรวม มีตำรวจเพียงไม่กี่คนที่ทำเสียหาย แต่ตำรวจทำดียังมีอีกมากแต่สังคมไม่เห็น ผมปั่นจักรยานปฏิบัติหน้าที่มา 6 ปี ไม่มีใครเห็น แต่เวลาผมเดือดร้อนขึ้นมา ประชาชนที่เห็นว่าผมทำงาน เขาก็เข้ามาช่วยเหลือผม การที่ประชาชนติดกล้องไว้ตรวจสอบตำรวจระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ผมสนับสนุนนะ ตำรวจคนไหนทำดีตำรวจคนไหนทำไม่ดี เปิดเผยหลักฐานให้สังคมเห็นกันไปเลย
อยากพูดอะไรฝากไปถึงคนที่เกลียดเราไหม
ผมทำงานตรงไปตรงมา ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ใครทำถูกต้องก็ไม่ไปรังแก ถ้าคุณไม่ทำผิดกฎจราจร ผมก็ไม่ออกใบสั่งคุณ ถ้าคุณทำผิดกฎจราจร ทำไม่ถูกต้อง ผมก็ต้องออกใบสั่งตามระเบียบ
อะไรคือความสุขในวันนี้
ความสุขของผมอยู่บนท้องถนน เวลาปั่นจักรยานไปไหน ประชาชนชอบใจ ยิ้มให้ ทักทาย ส่งน้ำส่งขนมให้ เหมือนผมได้รับรางวัลจากประชาชนแล้ว แค่นี้ก็มีความสุข สบายใจ ทำงานมาเครียดๆหายหมด ถือว่ายังมีประชาชนที่รักผมอยู่ ผมไม่เสียใจเลยที่เลือกเป็นตำรวจ ผมทำเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่แล้ว
อีกหนึ่งปีก็จะเกษียณอายุราชการ วางแผนชีวิตไว้อย่างไร
ก็ทำมาค้าขาย อยู่สงบๆ พักผ่อน แต่ยังไงก็ยังต้องปั่นจักรยานอยู่ดี การขี่จักรยานทำให้สุขภาพผมยังแข็งแรง
ประกอบกับชุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสวมใส่เป็นชุดที่คล้ายกับตำรวจในต่างประเทศสวมใส่ ทำให้นักท่องเที่ยวและประชาชน ชาวลพบุรี
มีความรู้สึกคุ้นเคย และมีความผ่อนคลาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาทำหน้าที่ในจุดนี้จะต้องสามารถสื่อสารกับนักท่องเที่ยวและประชาชน
และมั่นใจว่า หน่วยที่จัดตั้งขึ้นนี้สามารถช่วยเหลือประชาชน และนักท่องเที่ยว รวมทั้งจะได้รับความร่วมมือจากสาธารณชนแจ้งเบาะแส ปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ









