ข่าว 5 เหล่าทัพออนไลน์ หนังสือพิมพ์กองทัพข่าวออนไลน์ทั่วไทย

จังหวัดกาญจนบุรีร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานแถลงข่าวการแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ประจำปี 2568 ณ ห้องประชุมบุษราคัม องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ภายในงานมีการรายงานความพร้อมในทุกด้าน ทั้งการจัดการแข่งขัน การต้อนรับทีมชาติต่างประเทศ รวมถึงการประกาศผลการจับสลากประกบคู่รอบรองชนะเลิศอย่างเป็นทางการ โดยมี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี และนางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เข้าร่วมแถลงข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จังหวัดกาญจนบุรีรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ครั้งนี้ พร้อมย้ำถึงความตั้งใจของทุกภาคส่วนในการยกระดับการจัดงานให้มีมาตรฐานในทุกมิติ ทั้งการเตรียมสถานที่ มาตรการความปลอดภัย การคมนาคม รวมถึงการต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความอบอุ่น เพื่อให้การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความสุขให้ประชาชน แต่ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรม

ด้าน นายประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึง ความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นกำลังหลักในการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 51 พร้อมเผยว่า อบจ. ได้ทุ่มเทเตรียมความพร้อมในทุกมิติ ตั้งแต่ระบบจำหน่ายบัตรที่โปร่งใสและเป็นธรรม รวมถึงมาตรการป้องกันการจำหน่ายเกินราคา เพื่อให้แฟนบอลทุกคนได้รับสิทธิ์อย่างเท่าเทียม ด้านการเดินทาง ได้ประสานงานวางแผนจราจรรอบเมืองและจัดที่พักที่ได้มาตรฐานเพื่ออำนวยความสะดวกแฟนบอล และสำหรับสนามกีฬากลีบบัว ได้รับการปรับปรุงทั้งพื้นสนามหญ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อมอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายและน่าประทับใจแก่ผู้ชมทุกคน

ขณะที่ นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงความพร้อมของทีมชาติไทยว่า ขณะนี้ทีมชาติไทยอยู่ในอันดับที่ 100 ของโลก และอันดับ 17 ของเอเชีย ตามการจัดอันดับของฟีฟ่า ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการเก็บคะแนนสะสมและยกระดับทีมสู่เวทีโลก ทางสมาคมฯ ได้วางแผนการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ทั้งในด้านร่างกาย แท็กติก และสภาพจิตใจ เพื่อให้ทีมชาติไทยสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ในทุกรอบการแข่งขัน พร้อมเชิญชวนแฟนบอลทั่วประเทศร่วมส่งแรงใจให้กับนักเตะไทยและสร้างบรรยากาศแห่งความภาคภูมิใจในศึกคิงส์คัพปีนี้