รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีนำคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและเตรียมความพร้อมรับมือมวลน้ำจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ไหลเข้ามาในพื้นที่อำเภอชัยบาดาล และลงสู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 35 %
วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568 เวลา 11.00 น. นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายชูพงศ์ อิศรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุง รักษาป่าสักชลสิทธิ์ นายบุญเลิศ เนตร์ขำ นายอำเภอชัยบาดาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ณ วัดสิงหาราม ตำบลบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นจุดที่มวลน้ำจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ไหลมาทางแม่น้ำป่าสัก โดยจุดนี้เป็นจุดที่คลองลำสนธิ มาบรรจบกัน และไหลลงสู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีมีความเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องประชาชนและได้เน้นย้ำในเรื่องของการแจ้งเตือนภัยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำท้องที่ ท้องถิ่นเป็นกลไกสำคัญในการแจ้งข้อมูลข่าวสารผ่านหอกระจายข่าว วิทยุสื่อสารในพื้นที่ และกลุ่ม LINE ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รับรู้รับทราบสถานการณ์ในการเตรียมความพร้อมรับมือกรณีน้ำป่าไหลหลาก ว่าเวลาใดควรต้องอพยพหรือขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ทั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ได้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ ปริมาณน้ำฝน และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากพบเห็นหรือได้รับผลกระทบ และต้องการความช่วยเหลือเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติ สามารถแจ้งเหตุผ่านโทรศัพท์สายด่วน 1784 หรือแจ้งผ่านไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” Line ID@1784DDP ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังขอให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันในการเตรียมความพร้อม อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรกล และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ในทันที
ทางด้านนายชูพงศ์ อิศรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุง รักษาป่าสักชลสิทธิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอหล่มเก่าและอำเภอหล่มสักของจังหวัดเพชรบูรณ์ มวลน้ำดังกล่าวจะไหลมาทางแม่น้ำป่าสักลงมายังจังหวัดลพบุรีโดยจะเข้ามาที่อำเภอชัยบาดาลใช้เวลาปรพมาณ4-5วันซึ่งปริมาณน้ำจากการตรวจวัดระดับน้ำในลำน้ำ ที่ผ่านอำเภอเมืองเพชรบูรณ์วัดได้ ประมาณ 157 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ที่น้อยปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีน้ำอยู่ประมาณ 340 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็น 35% ของความจุเขื่อนเท่านั้น ยังคงสามารถเก็บกักหน่วงน้ำก้อนนี้ไว้ได้ แล้วก็จะไม่ทำให้ผลกระทบกับพี่น้องประชาชนริมสระแม่น้ำป่าสัก แต่อย่างไรก็ดีเพื่อความไม่ประมาทก็อยากให้พี่น้องประชาชนส่วนราชการติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิดด้วย
นันท์นภัส ลิ้มนุสนธิ์
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ


















