“อนุทิน” ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ย้ำ ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมอวยพรให้ประชาชนทุกคนมีแต่ความสุข ในส่วนของความทุกข์ขอให้ส่งมอบให้รัฐบาลทำหน้าที่แก้ปัญหา.วันนี้ (3 ต.ค. 68) เวลา 15.20 น. ที่อาคารโดมโรงเรียนพนมดงรักวิทยา อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามการเยียวยาและการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ พร้อมพบปะให้กำลังใจประชาชน โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รมช.สาธารณสุข น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพชร อนันตศิลป์ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และนายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ร่วมลงพื้นที่ โดย นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ รักษาราชการแทนผู้ว่าฯ สุรินทร์ หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร อปท. สมาชิกสภา อปท. สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ทหารผ่านศึก ประชาชนจิตอาสา นักเรียน และประชาชน รวมกว่า 2,000 คน เข้าร่วม.เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้เข้าพบปะทักทายประชาชนที่เดินทางมาให้การต้อนรับ และรับฟังการกล่าวรายงานสถานการณ์ภาพรวมจากรักษาการผู้ว่าฯ สุรินทร์ แล้วขึ้นเวทีกล่าวพบปะให้กำลังใจประชาชน จากนั้น ได้มอบเครื่องแต่งกายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ให้แก่ตัวแทน ชรบ. จาก 3 อำเภอ คือ อ.พนมดงรัก อ.บัวเชด และ อ.สังขะ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นผู้ริเริ่มในการแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการช่วยเหลือเจ้าพนักงานของหน่วยกำลังคุ้มครองและรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2568 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา นำมาซึ่งขวัญกำลังใจและความภาคภูมิใจของ ชรบ. ทุกนาย ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชรบ. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบในพื้นที่หมู่บ้านตามบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ในห้วงสถานการณ์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โดยในช่วงท้าย ได้นำคณะรัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา.นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้คณะรัฐมนตรีมาด้วยกันหลายท่าน มาด้วยความเป็นห่วง และนำกำลังใจอย่างเปี่ยมล้น ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีมาเกือบเดือนรอที่จะมาวันนี้ เพราะใจห่วงพี่น้องประชาชน ห่วงใยทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ชรบ. และทุก ๆ คน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา เราจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ทั้งเรื่องความมั่นคง การฟื้นฟู และเรื่องเศรษฐกิจ.นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณวงดนตรี มณฑลทหารบกที่ 25 (ค่ายวีรวัฒน์โยธิน) ที่ได้เป็นกำลังสำคัญในการเสริมสร้างสุนทรีย์ด้วยเสียงดนตรีเพื่อบรรเทาความตึงเครียดของประชาชนจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมได้ทักทายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และย้ำบทรายงานตัว อสม. โดยย้ำว่า “สู้จนชนะ” และยังได้ยืนยันถึงความตั้งใจในการช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบที่พี่น้องประชาชนทุกคนจะต้องได้รับภายในสัปดาห์หน้าโดยธนาคารออมสินดำเนินการ รวมถึงการอนุมัติเงินในการสร้างบังเกอร์ หลุมหลบภัย หอกระจายข่าว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแล้ว .”วันนี้ตนจะทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ไม่ใช่เฉพาะประชาชนที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แต่จะทำให้ทุกคนที่ได้รับผลกระทบ และเราจะทำตามความต้องการของพี่น้องประชาชนในการปิดด่านพรมแดนต่อไป ควบคู่การใช้กระบวนการทางการทูต ทำทุกสิ่งเพื่อให้เราไม่เสียเปรียบ เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดเกิดขึ้นกับคนไทยทุกคน ทำทุกช่องทางเพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีที่สุดสำหรับประชาชน รวมไปถึงเรื่องความปลอดภัย การแก้ไขปัญหาหนี้สิน สินค้าเกษตร และสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลในการฟอกไต พร้อมทั้งกล่าวทิ้งท้ายว่า การลงพื้นที่ครั้งหน้าจะมาแบบเซราะกราว เพื่อจะได้พบกันอย่างใกล้ชิด ขอให้ประชาชนทุกคนได้มีแต่ความสุข ในส่วนของความทุกข์ ขอให้ส่งมอบให้รัฐบาลทำหน้าที่แก้ปัญหาให้ประชาชนได้มีแต่ความสมบูรณ์พูนสุข” นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติม.
แชร์ให้เพื่อน











