เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 20 พ.ย. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 สั่งการให้ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.เด่นดนัย วัฒนวิจิตรนนท์ รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ พ.ต.ท.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.เพชรเกษม ได้ร่วมกันขยายผลเพื่อตัดวงจรเครือข่ายสแกมเมอร์ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 499/153 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา ตามหมายค้น ศาลอาญามีนบุรี ค.595/2568 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 จับกุม นางสาวธนิดา พลประทานสุข อายุ 37 ปี แสดงตนเป็นผู้ครอบครอง ผลการตรวจค้น พบสิ่งของที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด
1.โทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ Vivo รุ่น v2231 จำนวน 1 เครื่อง
2.คอมพิวเตอร์ Notebook ยี่ ASUS Series Fx504 สีfe จำนวน 1 เครื่อง
3.ซิมโทรศัพทเคลื่อนที่ เครือข่ายทรูมูฟ รายเดือน เบอร์โทร 0835391100
4.ซิมโทรศัพทเคลื่อนที่ เครือข่ายทรูมูฟ รายเดือน เบอร์โทร 0686734555
5.ซิมโทรศัพทเคลื่อนที่ เครือข่ายทรูมูฟ รายเดือน เบอร์โทร 0812044545
6.หนังสือเดินทางของนางสาวธนิดา พลประทานสุข เลขหนังสือ AD2557987 จำนวน 1 เล่ม
7.สมุดจดบันทึก โดยระบุเลขบัญชีธนาคาร(ถูกพบภายในชั้นวางรองเท้าหน้าบ้าน)
8.โทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ Vivo รุ่น v50 จำนวน 1 เครื่อง
9.Microsorf surface book ไม่ทราบรุ่น สีดำ จำนวน 1 เครื่อง โดย สิ่งของทั้ง9 รายการ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ
จากการสอบสวน นางสาวธนิดาฯ ให้การว่า ตนมีแฟนเป็นคนจีน ซึ่งแฟนเป็นหัวหน้ากลุ่มแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่มาไทยบ่อย แต่ปัจจุบันพักในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ประเทศลาว โดยจะจัดหาบัญชีร่วมกับเพื่อน เพื่อที่จะรับเงินจากแก๊งค์คอลฯ นำไปเปลี่ยนเป็น USTD ให้กับแฟนคนจีน โดยมีเงินหมุนเวียน รวม 128 ล้านบาท
พ.ต.อ.ปราโมทย์ ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการสืบสวนขยายผล เพื่อตัดวงจรกลุ่มเครือข่ายบัญชีม้า ที่ได้ใช้หลอกหลวงผู้เสียหาย จนเกิดความเสียหายเกือบ 7 ล้านบาท ทั้งนี้ทางรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการระดมกวาดล้างอย่างเด็ดขาด ซึ่งในเคสนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการวางแผนทลายเครือข่ายมาตลอด และที่สำคัญสามารถยึดเงินคืนให้กับผู้เสียหายไปก่อนนี้แล้วเป็น 1,600,000 บาท ซึ่งจะได้ดำเนินการขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
////











