ดร.ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา มอบกำลังใจทีมเทนนิสซีเกมส์ของไทย หลังชมการฝึกซ้อม ที่ทางสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ตั้งเป้าหมายไว้ 4 เหรียญทอง ชมเปาะสมาคมฯ มีการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม พร้อมแนะแนวทางในการประชาสัมพันธ์ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ควรเร่งเครื่องให้คนไทยได้ร่วมรับรู้ เพื่อมาชมและเชียร์ เป็นการให้กำลังใจนักกีฬามากกว่านี้
ดร.ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์คณะ กมธ. ท่องเที่ยวและการกีฬาวุฒิสภา, ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการด้านการกีฬา วุฒิสภา, คณะอนุกรรมาธิการศึกษากฏหมายท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา และประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา มาเยี่ยมชมการฝึกซ้อมของทีมนักกีฬาเทนนิสทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่จะทำการแข่งขันกันในวันที่ 9-20 ธ.ค.2568 โดยมี พลเอกกู้เกียรติ ศรีนาคา อุปนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในการต้อนรับครั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2568 ที่สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ
สำหรับนักกีฬาเทนนิสชุดนี้ ควบคุมโดย วิเชษฐ์ ทีปากร อุปนายกสมาคมฯ ในฐานะผู้จัดการทีม ร่วมด้วย นักกีฬาและผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย
จากนั้น ดร.ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ได้มอบกระเช้าผลไม้ และเงินสนับสนุนการฝึกซ้อมจำนวน 20,000 บาท พร้อมให้โอวาทแก่นักกีฬาเทนนิสทีมชาติไทย
สำหรับนักกีฬาชุดนี้ นักกีฬาชาย ได้แก่ บูม-กษิดิศ สำเร็จ, แม็กซิมัส-ภราพล โจนส์, ภวิชญ์ สอนหลักทรัพย์, วิชญา ตรงเจริญชัยกุล, ปรัชญา อิสโร นักกีฬาหญิง ได้แก่ มนัชญา สว่างแก้ว, ลัลนา ธาราฤดี, ทรรศพร นาคหล่อ, พัชรินทร์ ชีพชาญเดช, เพียงธาร ผลิพืช
ดร.ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ เปิดเผยว่า นี่คือสมาคมที่ 12 ที่ทางมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ได้เดินทางมาเยี่ยมชมการฝึกซ้อม และมอบเงินสนับสนุนให้ทางลอนเทนนิสสมาคมฯ ทางมูลนิธิฯ ขอขอบคุณสมาคมฯ และคณะผู้บริหาร ที่เตรียมทีมมาเป็นอย่างดี ทำให้มีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เมื่อนักกีฬามีความพร้อมทุกด้าน มั่นใจว่าจะสามารถทำให้ประชาชนชาวไทยมีความสุข ขอให้นักกีฬามีขวัญและกำลังใจที่ดี เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ขอให้ทุกคนทำเพื่อเหรียญรางวัล โดยเฉพาะเหรียญทอง อยากให้คนไทยมาร่วมชมและเชียร์ผู้เล่นชุดนี้ ทีมเทนนิสไทยมีการเก็บตัวอย่างต่อเนื่อง และยังมีโปรแกรมการแข่งขันต่างประเทศมาโดยตลอด
ทาง มูลนิธิฯ ให้ความสำคัญกับกีฬาทุกชนิด ซึ่งกีฬา เทนนิส ก็นับเป็นหนึ่งในกีฬาที่เป็นพันธกิจสำคัญของมูลนิธิฯ ที่พร้อมจะสนับสนุน รวมทั้ง ทางกรรมาธิการด้านการกีฬาวุฒิสภา ที่ทางมูลนิธิฯ พร้อมเอื้ออำนวยความสะดวก คอยสนับสนุนในทุกๆ ด้าน เพื่อความสมบูรณ์และความพร้อมไปสู่จุดหมายรวมถึงภาคส่วนอื่นๆ ที่คอยเติมเต็ม เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพ และสนับสนุนนักกีฬาเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และมีความสุข เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทุกคน
สำหรับความเห็นเรื่องการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 นั้น คิดว่าประชาชนคนไทยทั้งประเทศ อาจจะยังไม่ค่อยรู้โปรแกรมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มากนัก เพราะมีการประชาสัมพันธ์ที่น้อยไปหรือไม่ ควรมีการประชาสัมพันธ์ให้มากกว่านี้ เพราะเมื่อมีการใช้งบประมาณไปแล้ว ก็ควรสื่อสารให้ครบรอบด้าน เพื่อให้ถึงประชาชนทุกคน และทุกฝ่ายได้รับรู้กันอย่างกว้างขวาง
อย่างวันแรกที่เริ่มทำการแข่งขันกีฬา มีคนเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลน้อยมาก การที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นเจ้าภาพหลัก ต้องไปทำการบ้านว่า จะมีวิธีการไหน ที่ทำให้คนเข้ามาชมการแข่งขันมากขึ้น อยากจะให้ทุกคนได้รับรู้และมีส่วนร่วมมากกว่านี้
สำหรับงบประมาณของ กกท. ในส่วนของการประชาสัมพันธ์ ต้องรอให้จบการแข่งขันก่อน ทาง กมธ. จึงจะมาดูว่า งบประมาณที่ใช้ไป คุ้มค่าหรือไม่ และทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้เพียงไร ถ้าประเมินแล้วเห็นว่า คุ้มค่า ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากใช้งบประมาณไปแล้ว ไม่เกิดความคุ้มค่า หรือเกินกว่าความเป็นจริง ก็คงจะต้องเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบถามอีกที
นอกจากนั้นแล้ว ไทยยังมีประสบการณ์ในการจัดเกมการแข่งขันระดับนานาชาติมาแล้วหลายครั้ง ทั้งการเป็นเจ้าภาพกีฬา เอเชียนเกมส์ มาแล้ว 4 ครั้ง สำหรับ ซีเกมส์ ก็ยังเคยเป็นเจ้าภาพมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ กลับเจออุปสรรคมากมาย
การที่การแข่งขันฟุตบอลในซีเกมส์ วันแรก เริ่มทำการแข่งขัน แล้วในสนามไม่สามารถเปิดเพลงชาติของทีมที่เข้าแข่งขันได้นั้น ถือว่ามีความผิดพลาดมาก จริงๆ ก่อนเริ่มแข่งขัน ทาง กมธ. กีฬา วุฒิสภา มีความกังวลและห่วงใยในเรื่องเหล่านี้มาก่อน ซึ่งควรที่จะมีการทดสอบสนาม ไฟ แสงสีเสียง ซาวด์ การซ้อมเปิดเพลงชาติ ธงชาติขึ้นตรงหรือไม่ อีกประการหนึ่ง เวลาที่นักกีฬาลงสู่สนาม ไม่ว่าจะเป็นชาติใด เคยมีการฝึกซ้อมเปิดเพลงชาติหรือไม่ ยิ่งช่วงนี้ เวลานักกีฬาจะยืนถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ควรมีการฝึกซ้อมการยืนถวายความอาลัย ฝ่ายพิธีการต้อนรับ ควรจะเน้นดูแลตรงจุดนี้ เป็นพิเศษ
วิเชษฐ์ ทีปากร อุปนายกสมาคมฯ ในฐานะผู้จัดการทีม เปิดเผยว่า ตอนนี้ ทีมเทนนิสของไทยนั้น มีการเตรียมความพร้อมมานาน มีการส่งนักกีฬาไปแข่งขันเก็บคะแนนระดับโลก ทางสมาคมฯ ได้เลือกคนที่ดีที่สุด 5 อันดับแรก เพื่อเป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าแข่งขันซีเกมส์
สำหรับความหวังเหรียญทองตั้งไว้ 4 เหรียญทอง จากที่มีการชิงชัย 7 เหรียญทอง โดยคาดหวังไว้ใน ประเภททีมชายและทีมหญิง ส่วนประเภทเดี่ยวและคู่ ก็มีลุ้น โดยคู่แข่งที่น่ากลัวก็มี อินโดนีเซีย มาเลเซีย และ สิงคโปร์
"บูม" กษิดิศ สำเร็จ กล่าวว่า ตอนนี้ มีความพร้อมเป็นอย่างมาก เพราะออกไปแข่งขันต่างประเทศมาตลอดเป็นเวลา 2 เดือน ตอนนี้กลับมาฝึกซ้อมร่วมกันแล้ว ทีมเทนนิสไทยมีความมั่นใจกันทุกคน ก่อนหน้านี้ ในซีเกมส์ที่ผ่านมา เคยได้เหรียญทองประเภททีม แต่ครั้งนี้ขอเหรียญทองชายเดี่ยว หวังว่าจะทำได้ แต่ก็ไม่พยายามกดดันตัวเอง ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัวก็มี อินโดนีเซีย ที่เคยแพ้ในรอบชิงชนะเลิศชายเดี่ยวในซีเกมส์ครั้งก่อน ส่วนคนอื่นๆ ก็ยังมีเด็กดาวรุ่งสิงคโปร์ และ คู่แข่งจากมาเลเซีย ที่น่าจับตามอง
แม็กซิมัส-ภราพล โจนส์ เปิดเผยว่า ตอนนี้มีความพร้อมอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้แข่งขันซีเกมส์ ตอนนี้ ร่างกายมีความสมบูรณ์มาก ตั้งเป้าหมายว่าจะขอคว้าเหรียญทองให้ได้






















