จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 09.00 น. ทหารกัมพูชาได้ระดมยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามาในพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน ในเขตตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ประชาชนพลเรือนได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 ราย ขณะเดินทางกลับจากศูนย์อพยพเพื่อมาดูแลและให้อาหารสัตว์เลี้ยงที่บ้านพักของตนเอง เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือและเร่งนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยทันที
ขณะเดียวกัน สะเก็ดระเบิดจากการโจมตีดังกล่าวได้ก่อให้เกิดเพลิงลุกไหม้บ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวน 2 หลัง โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนตำบลบึงมะลู ได้นำรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์จนสามารถระงับเหตุไว้ได้แล้ว
ล่าสุดในวันเดียวกัน นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า ขณะนี้ประชาชนคงได้รับทราบข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ แล้ว อย่างไรก็ตาม ขอให้ติดตามข่าวสารจากสื่อหลัก โดยเฉพาะสื่อของกองทัพบกและหน่วยงานราชการเป็นหลัก เนื่องจากเป็นแหล่งข้อมูลที่มีความถูกต้อง ชัดเจน และแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนยังคงดำเนินอยู่ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้อยู่ภายในศูนย์พักพิงชั่วคราว และงดเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเวลานี้ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางรัฐบาลเป็นหลัก
ด้านเจ้าของบ้านที่ถูกจรวด BM-21 ตกใส่จนได้รับความเสียหายและเกิดเพลิงไหม้ อยู่ในอาการเสียใจอย่างมาก โดยเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายบั้งไฟ จึงรีบพากันหลบเข้าไปในหลุมหลบภัย ก่อนจะได้ยินเสียงยิงต่อเนื่องเป็นชุด ๆ บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยเด็ก โชคดีที่ไม่มีผู้ใดในครอบครัวได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้สมาชิกในครอบครัวได้อพยพออกจากพื้นที่ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงตนเองและบิดาที่ยังอยู่เพื่อเฝ้าทรัพย์สิน
เจ้าของบ้านรายดังกล่าวยังกล่าวอีกว่า การปฏิบัติการทางทหารและการสู้รบในครั้งนี้มีความรุนแรงอย่างมาก โดยเฉพาะในวันนี้ที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าวันที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด จากการระดมยิงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเหตุปะทะในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สถานการณ์ในเดือนธันวาคมนี้ถือว่าหนักหน่วงกว่ามาก หลังจากนี้ยังไม่ทราบแนวทางการดำเนินชีวิตต่อไป คงต้องไปอาศัยบ้านอีกหลังหนึ่งเป็นการชั่วคราว
ขณะที่ชาวบ้านอีกรายซึ่งอาศัยอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นและเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง รู้สึกเหมือนแรงกระแทกเข้ามาถึงร่างกาย ในช่วงเวลานั้นกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่บริเวณหลังบ้าน แม้จะตกใจ แต่ด้วยความเคยชินต่อเหตุการณ์ที่ผ่านมา จึงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวมากนัก อีกทั้งไม่ต้องการอพยพออกจากพื้นที่เนื่องจากเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไว้ ทั้งปลา ไก่ และสุนัขจำนวน 4 ตัว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วงเช้าวันเกิดเหตุรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากจนขาสั่น เดินแทบไม่ไหว แต่เมื่อเสียงปะทะสงบลง สภาพจิตใจก็กลับสู่ภาวะปกติ โดยในพื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านส่วนใหญ่ได้อพยพออกไปแล้ว แต่ตนยังยืนยันจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่อไป สำหรับความรู้สึกต่อการโจมตีจากฝ่ายกัมพูชา ในฐานะประชาชนไม่อาจยอมรับหรือให้อภัยได้ เนื่องจากเป็นการอยากจะบุกรุกเข้ามาในดินแดนของประเทศไทย.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน












