ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี สำนักข่าวเดลิซันเดย์ ตอนย้อนหลังไปเมื่อปี พ. ศ. 2480 ใน ขณะนั้นเมืองหลวงอย่างเช่น กรุงเทพมหานคร ในปัจจุบันมี โรงภาพยนต์แห่งเดียว คือ “เฉลิมกรุง”แห่งเดียว ต่อมาก็มี โรงภาพยนตร์ทหารบก อันถือว่าเป็นโรงภาพยนตร์ ที่สร้างขึ้นเป็นแห่งที่สองของโรงภาพยนตร์ เฉลิมกรุง ก็ว่าได้ โรงภาพยนตร์ทหารบก แห่งนี้ สร้างขึ้นในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นผู้มองการณ์ไกล ที่สร้างเมืองลพบุรี เป็นเมืองทหาร แล้วแต่งยังมอบความบันเทิงให้ประชาชน ได้พักผ่อนด้วยการชมภาพยนตร์ ในยุคนั้นด้วย การสร้างโรงแรมทหารบก ดังนั้น สถานที่ทั้งสองแห่งจึงมีคำว่าทหารบกต่อท้าย เสนอ โรงภาพยนตร์ทหารบก จังหวัดลพบุรี แห่งนี้ถือเป็นสถานบันเทิงของชาวจังหวัดลพบุรี มาช้านาน มีความหมายอย่างมากชาวลพบุรี ทุกคนภาคภูมิใจ มีความผูกพันกับโรงภาพยนตร์ แห่งนี้ ว่า โรงภาพยนตร์ทหารบก ต่อมาเปลี่ยนเป็นทหาร แต่ด้วยเหตุหลายประการต้องนำชื่อ ทหาร กลับมาใช้ตามเดิม ในที่สุดจาก ทหาร ก็กลับมาเป็น ทหารบก ตาทแบบชื่อเดิมที่นิยม เรียกกันมานั่นเอง ในอดีตหน้าโรงภาพยนตร์แห่งนั้ มีการปลูกต้นไม้หลายชนิด โดยเฉพาะต้นลั่นทม ต้นไม้นี้มีอายุไม่น้อยกว่า 150 ปี แต่ปัจจุบันถูกทางเทศบาลเมืองลพบุรีตัดทิ้งไป โดยไม่มีใครเสียดายแม้แต่น้อย จนชาวลพบุรีต้องพลอยเศร้าใจไปด้วย เพราะต้นไม้นี้มัน ควรอยู่คู่โรงภาพยนตร์ ทหารบก มากกว่า กลายเป็นขยะที่ไร้ความหมาย…..! และเมื่อปลายปี 2540 โรงภาพยนตร์ ทหารบก โดยบริเวณรอบๆ อาคาร มีการต่อเติมอาคาร โดยผู้ดำเนินการหวังผลประโยชน์มากกว่า ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ดี ล้วนเป็นสภาพเพิงที่ไร้ความสง่างาม ของโรงภาพยนตร์ทหารบก ที่เคยเป็นเด่นสง่ามาช้านาน จนกระทั่งประชาชนชาวลพบุรี ทุกคนต่างพากันแปลกใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นในยุดปัจจุบัน ทุกคนรู้สึกว่าผู้คนมัยนี้เอาสิ่งแปลกปลอดมาผสมานกับถาวรวัตถุที่ล้ำค่า ด้วยความไม่เห็นคุณค่าของเก่า รู้สึกเศร้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคาคารรอบๆ โรงภาพยนตร์ทหารบก นั้นไม่สมควร อย่างยิ่ง ยายใดเมื่อมองแล้วทำให้เสียยรรยากาศและภูมิทัศน์ ถ้าลองต่อเติมกันง่ายๆ แบบนี้ แล้วอีกหน่อยเกิด ของแท้จะไม่มีให้เห็น ไม่มีใครกล้าเสนอความจริง ออกมาแม้แต่ พระบรมราชนุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช นักธุรกิจบางคนยัง สามารถหมกเม็ดบังอาจทำได้ในเมื่อทุกลมหายใจเป็นเงินเป็นทอง ….. ในสมัยนั้น มี พล.ต.ไพโรจน์ แสงสว่าง ในขณะนั้น ดำรงตำแหน่งผู้บัญขาการมณฑลทหารบกที่.13 ในสมัยนั้น ฝากถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ ช่วยพิจารณาด้วยว่า สิ่งใดถูกต้อง สิ่งใดไม่ถูกต้อง เพราะโรงภาพยนตร์ทหารบก แห่งนี้ชาวลพบุรี ทุกคนรัก เปรียนเสมือนเป็นสิ่งหนึ่ง ในชีวิตของคนขาสลพบุรี แต่เท่าที่ทุกวันนี้ ชาวลพบุรีต้องเศร้าใจต่อๆไป เพราะมีสิ่งแปลกปลอทเข้ามาในขณะที่ชาวลพบุรีไม่ต้องการ …….อาคารประวัติโรงภาพยนตร์ทหานบกเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ และศิลปกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ทีสร้างขึ้นโดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ พ.ศ. 2482 สมัยที่ท่านจอมพล แปลก พิบูลสงคราม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อถูกสร้างให้เป็นรมณียสถานของเมืองลพบุรีรวมทั้งอาจจะใช้ประโยชน์เป็นที่ประชุมสภาได้หากเกิดเหตุขับขันของสงครามโลกและจำเป็นต้องย้ายเมืองหลวงมา ณ จังหวัดนี้ และมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของยุคสมัย คือสถาปัตยกรรมแบบอารต์ เดโค ที่หาดูได้ยากในประเทศไทย ตลอดจนเป็นสถาปัตยกรรมโรงมหรสพที่ทันสมัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทยรองจากโรงมหรสพเฉลิมกรุง อีกทั้งเป็นสถาปัตยกรรมอายุนานถึง 82 ปีแล้ว โรงภาพยนตร์ทหานบก
โรงภาพยนตร์ทหานบก (ป้ายด้านหน้าสะกด ภาพยนตร์ทหานบก) เป็นโรงภาพยนตร์ที่มีความเก่าแก่ และในอดีตก็นับเป็นโรงภาพยนตร์ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศอีกแห่งหนึ่งด้วย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับวงเวียนศรีสุริโยทัย อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์
ตั้งข้อสังเกต ว่าทำไมกรมธนารักษ์ ไม่กล้ายกให้ กลับกรม ศิลปากร เพราะเหตุใดท่านก็รู้ดี เพราะผลประโยชน์ต่างๆนั่นเอง ได้ องค์กร ชมรม สมาคม ได่ยื่นคัดค้าน ไม่ให้ต่อสัญญา แต่ กรมธนารักษ์ และสำนักงานธรรมรักษ์ลพบุรี ไม่สน ขอคัดค้านจากองค์กรใดๆทั้งสิ้นหวังสิ่งประชาชน เอาแต่ผลประโยชน์อย่างเดียว แน่จริงท่านก็โอนให้ กรมศิลปากรไปเลย เอา มาใช้ประโยชน์ ดีกว่า ให้เอกชนมาเช่า มาปู้ยี่ปู้ยำวัตถุโบราณ สมัยจอมพลปพิบูลสงคราม สร้างขึ้นมาเพื่อให้ลูกหลานให้ดูกันแต่มายุปัจจุบันถูกทำลายด้วยมือนักธุรกิจ แสวงหาประโยชน์ กับข้าราชการบางพลัดแอบต่อสัญญาอย่างเงียบๆ
ฝาก ถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาดู การแก้ปัญหา ที่นี่ให้ด้วย ฝากเรื่อง ด้วยอย่าให้ อดีตนายกรัฐมนตรี จอมพลป พิบูลสงคราม ยายท่านเสียน้ำตา มองรูปหลานมองพวกท่าน ทำร้ายทำลาย สิ่งก่อสร้างของท่านที่สร้างเอาไว้ให้ลูกหลานได้ดูกัน โปรดอย่าทำร้าย ทำลายวัตถุโบราณ
จอมพล ป. พิบูลสงครามมีนามเดิมว่า แปลก ขิตตะสังคะ เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2440 จบการศึกษาโรงเรียนนายร้อย ทหารปืนใหญ่ และเดินทางไปศึกษาวิชาการทหารปืนใหญ่เพิ่มเติมที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดินทางกลับมาได้ร่วมกับคณะราษฏรทำการ เปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 มีบทบาทอย่างสูงในการอภิวัฒน์ (Reforn) สังคมไทยให้มีความทันสมัยพ้นจาก สภาพความล้าหลัง
ผลงาน
จอมพล ป. พิบูลสงคราม หรือจอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศไทย ดำรงตำแหน่งครั้งแรกระหว่าง พ.ศ. 2481-2487 และครั้งที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2451-2400 จอมพล ป. พิบูลสงครามมีบทบาทการเมืองไทยที่สำคัญทั้ง 2 สมัยและเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย การอภิวัฒน์สังคมไทยตามแนวดำริของจอมพล ป. พิบูลสงคราม จะใช้นโยบายชาตินิยม เข้ามาประสานความร่วมมือจากประชาชน อาทิ ส่งเสริมกิจกรรมของกองทัพ ส่งเสริมความเป็นชนชาติไทย เน้นนโยบายเศรษฐกิจแบบไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ ประกาศรัฐนิยมเพื่อปฏิวัติวัฒนธรรมของสังคมไทยเสียใหม่เช่น เรื่องภาษา ชีวิตความเป็นอยู่ การกินอยู่ การดนตรี การละเล่น การแต่งกาย คตินิยม เป็นต้น ดังนั้นจึงถือว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ที่สุดของไทย
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้สร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เมืองลพบุรีหลายประการเช่น การวางผังเมืองลพบุรีตามแบบยุโรป ( ปัจจุบันผังเมืองแบบวงเวียนคงมีเหลือให้เห็นที่เมืองลพบุรีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ) การสร้างเมืองลพบุรีให้เป็นเมืองทหาร สร้างนิคมสร้างตนเอง เป็นต้น ประชาชนชาวจังหวัดลพบุรีจึงให้การยอมรับจอมพล ป. พิบูลสงคราม ว่าเป็นวีรบุรุษของชาวลพบุรี
ปิยะเนศ สินศิริวงศ์วัชระ
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี