ผู้นำเกาหลีเหนือ ประกาศว่าการยิงทดสอบขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ (submarine-launched ballistic missile – SLBM) เมื่อเช้าวานนี้ (24 ส.ค.) เป็น “ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่” ที่ทำให้เกาหลีเหนือเทียบชั้นกับบรรดามหาอำนาจนิวเคลียร์ ในขณะที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตรียมออกมาประณามการทดสอบครั้งล่าสุด ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีขีปนาวุธของโสมแดงนั้นก้าวหน้าไปมาก
วันนี้ (25 ส.ค.) สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือได้อ้างคำแถลงของผู้นำคิม ซึ่งระบุว่า แผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ และมหาสมุทรแปซิฟิกทั้งหมด “อยู่ในรัศมีโจมตีของจรวดเกาหลีเหนือ”
ขีปนาวุธซึ่งถูกยิงจากเรือดำน้ำบริเวณเมืองท่าซินโป (Sinpo) บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐโสมแดง สามารถเดินทางไปได้ไกลถึง 500 กิโลเมตร และล่วงล้ำเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าจรวดได้รับการพัฒนาจนมีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าการทดสอบครั้งก่อนๆ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เปิดประชุมด่วนเป็นเวลาถึง 2 ชั่วโมงวานนี้ (24) เพื่อหารือเรื่องที่เกาหลีเหนือแสดงพฤติกรรมยั่วยุ และตกลงว่าจะต้องแถลงประณามการทดสอบจรวดครั้งนี้
“สมาชิกคณะมนตรีส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยว่าต้องประณาม ดังนั้น เราจึงต้องพิจารณาว่าจะกลั่นกรองคำแถลงออกมาอย่างไร” รอมลัน บิน อิบรอฮีม เอกอัครราชทูตมาเลเซียซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นประจำเดือนนี้ ระบุ
นักการทูตเชื่อว่า การร่างคำประณามโสมแดงคงจะต้องงัดข้อกับ “จีน” ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของเปียงยางอยู่พอสมควร
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธจากพื้นดินพุ่งตรงไปยังน่านน้ำของญี่ปุ่นโดยตรงเป็นครั้งแรก ซึ่งเรียกเสียงประณามอย่างหนักจากรัฐบาลโตเกียว ทว่าคณะมนตรีความมั่นคงฯ ไม่สามารถออกคำแถลงประณามได้ เนื่องจากจีนซึ่งเป็นสมาชิกถาวรพยายามดึงเรื่องให้โยงกับการที่สหรัฐฯ จะส่งระบบขีปนาวุธ THAAD เข้าไปยังเกาหลีใต้
ผู้นำคิมกล่าวว่า ความสำเร็จใจการทดสอบจรวด SLBM ครั้งล่าสุดเป็นเครื่องยืนยันว่าเกาหลีเหนือ “เทียบชั้นกับชาติมหาอำนาจแถวหน้า ที่มีศักยภาพในการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์”
หนังสือพิมพ์โรดองซินมุนของเกาหลีเหนือได้เผยแพร่ภาพชุดจำนวน 24 ภาพขณะที่ผู้นำคิมเดินทางไปชมการทดสอบจรวด SLBM ด้วยตนเอง โดยมีอยู่ภาพหนึ่งที่ คิม ยืนเท้าเอวและระเบิดหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“ท่านยกย่องการยิงทดสอบจรวดครั้งนี้ว่าเป็นความสำเร็จ และชัยชนะที่ยิ่งใหญ่” เนื้อหาของข่าวระบุ
คิม สั่งให้นักวิทยาศาสตร์โสมแดงเร่งหาวิธีติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์บนขีปนาวุธทุกรุ่น และยิงมันออกไปสู่เป้าหมายให้สำเร็จ “เพื่อเตรียมรับมือหากเกิดสงครามเต็มรูปแบบ หรือสงครามนิวเคลียร์กับพวกคลั่งอาณานิคมจากสหรัฐฯ”
“ผมจะไม่เดาหรอกว่าสหรัฐฯ และบรรดาสาวกจะพูดอย่างไรเกี่ยวกับการทดสอบของเราครั้งนี้ แต่บอกได้เลยว่า การกระทำที่ไร้สติยั้งคิดของพวกเขามีแต่จะทำลายตัวเอง” คิม กล่าว
สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้อ้างแหล่งข่าวทางทหารซึ่งระบุว่า กองทัพโสมแดงตั้งใจยิงจรวดออกไปในมุมแหลมเพื่อจำกัดพิสัยเดินทางของมัน แต่หากถูกยิงออกไปในมุมที่เหมาะสมที่สุด และใส่เชื้อเพลิงเต็มพิกัด จรวดลูกนี้อาจจะเดินทางไปได้ไกลถึง 2,500 กิโลเมตร
สถาบันสหรัฐฯ-เกาหลีแห่งมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ ได้ให้ความเห็นผ่านเว็บไซต์ 38 North ว่า เปียงยางยังต้องก้าวข้ามขีดจำกัดด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างเรือดำน้ำรุ่นใหม่ๆ ที่สามารถติดตั้งขีปนาวุธได้ แต่ถึงกระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เกาหลีเหนือ “ก้าวหน้าไปมาก และอาจมีศักยภาพพอที่จะโจมตีเป้าหมายทุกจุดในภูมิภาคนี้ได้ภายในปี 2020 รวมถึงหมู่เกาะญี่ปุ่น”

North Korean leader Kim Jong Un visits the Sunchon Chemical Complex in this undated photo released by North Korea’s Korean Central News Agency (KCNA) in Pyongyang on August 13, 2016. KCNA/ via REUTERS









