อีกหนึ่งประเด็นดราม่าทางสังคมในขณะนี้ก็คือ กรณีคอลัมน์นิสต์หนังสือพิมพ์หัวสียักษ์ใหญ่ได้เขียนบทความ และทำให้ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งที่เกษียณอายุราชการแล้วและยังรับราชการอยู่
ระบุ ว่าเป็นการกล่าวร้าย พาดพิง โรงเรียนนายตำรวจในเชิงเสียหาย ล่าสุด พล.ต.ท.ศักดา เตชะเกรียงไกร ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ผบช.รร.นรต.) ได้ทำหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โดยระบุข้อความ ว่า ด้วยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับรายวัน ประจำวันพุธที่ 14 กันยายน 2559 ในคอลัมน์สะบัดปากกากล้าได้กล้าเสีย มีข้อความว่า”ว่ากันว่าโรงเรียนนายร้อยตำรวจนั้นสั่งสอนตำรวจให้ออกมาแบบไม่ค่อยรู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ แต่ไปสร้าง “ค่านิยม” ที่ไม่ถูกทิศทางกลายเป็นว่าตำรวจไทยรอบรู้ทุกอย่างแต่ไม่รู้จักหน้าที่และภารกิจ จึงไม่แปลกที่มีการผลิตตำรวจที่ทำให้ตำรวจไทยกลายเป็นตำรวจโจรมากเข้าไปทุกที เพราะเรียนรู้เรื่องชั่วๆ มากกว่าเรื่องดีๆ”
โรงเรียนนายร้อยตำรวจพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อความที่ว่า “กลายเป็นว่าตำรวจไทยรอบรู้ทุกอย่างแต่ไม่รู้จักหน้าที่และภารกิจจึงไม่แปลกที่มีการผลิตตำรวจที่ทำให้ตำรวจไทยกลายเป็นตำรวจโจรมากเข้าไปทุกที เพราะเรียนรู้เรื่องชั่วๆ มากกว่าเรื่องดีๆ”เป็นการใส่ความสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าผลิตตำรวจไทยให้กลายเป็นตำรวจโจร ซึ่งข้อความดังกล่าว เป็นข้อความที่ทำให้ผู้อ่านซึ่งไม่รู้ข้อเท็จจริง ดูหมิ่น ดูแคลน หรือ เกลียดชังตำรวจทั้งประเทศ และทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสื่อมเสียชื่อเสียง
และข้อความที่ว่า “ว่ากันว่าโรงเรียนนายร้อยตำรวจนั้นสั่งสอนตำรวจให้ออกมาแบบไม่ค่อยรู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ แต่ไปสร้าง “ค่านิยม” ที่ไม่ถูกทิศทาง” เป็นข้อความที่กล่าวถึงโรงเรียนนายร้อยตำรวจว่าผลิตข้าราชการตำรวจและจัดการเรียนการสอนไม่ดี ทำให้ตำรวจไม่รู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นข้อความที่อยู่ก่อนข้อความที่อยู่ก่อนข้อความที่ดูถูกตำรวจทั่วประเทศ ทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าโรงเรียนนายร้อยตำรวจสอนแต่เรื่องชั่วๆ มากกว่าเรื่องดี ทำให้ตำรวจกลายเป็นตำรวจโจร ทำให้โรงเรียนนายร้อยถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เสื่อมเสียชื่อเสียง อย่างร้ายแรง ซึ่งกระทบจิตใจของข้าราชการตำรวจคณาจารย์ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจเป็นอย่างมาก
“เพื่อเป็นการรักษาและดำรงไว้ซึ่งเกียรติภูมิของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จึงขอให้พิจารณาดำเนินคดีกับบรรณาธิการซึ่งเป็นผู้พิมพ์ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ บริษัท วัชรพล จำกัด นิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการและผู้จำหน่ายหนังสือพิมพ์ดังกล่าว และผู้เขียนคอลัมน์โดยใช้นามปากกาว่า “สายล่อฟ้า” ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ได้โปรดพิจารณามอบอำนาจให้ พล.ต.ท.ศักดา เตชะเกรียงไกร แจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีดังกล่าว”
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศักดา ระบุด้วยว่า จากข้อความที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ดังกล่าว ทางโรงเรียนนายร้อยตำรวจเป็นองค์กรของตร. จึงจำเป็นต้องทำหนังสือถึงผบ.ตร.เพื่อให้เซ็นมอบอำนาจให้ตนดำเนินการทางกฎหมาย หากผบ.ตร.มอบอำนาจแล้ว จะปรึกษากับฝ่ายกฎหมายเพื่อพิจารณายื่นฟ้องต่อศาล โดยอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะยื่นฟ้องศาลจังหวัดนครปฐม หรือศาลในเขต
ขณะที่เฟสบุ๊กส่วนตัวของของ พล.ต.ท.ศักดา เตชะเกรียงไกร ได้โพสต์ข้อความลงในเพจ “เฉพาะนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงและชายทุกรุ่น” ว่า ในวันที่16 กันยายน เวลา 15.00 น. ผบช.และนรต.จะไปยื่นหนังสือเปิดผนึกต่อ หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว คณาจารย์ นายตำรวจที่สมัครใจ จะไปร่วม ขอให้มาพร้อมกันเวลา 13.15 น. ที่ลานศรียานนท์ รร.นรต.
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าในคอลัมน์กล้าได้ กล้าเสีย โดยคอลัมน์นิสต์ที่ชื่อ “สายล่อฟ้า” ได้เขียนบทความดังกล่าว ในหัวข้อ “ปฏิรูปตำรวจสร้างค่านิยมใหม่” โดยอ้างอิงจากคำสั่ง คสช.54/2559 ที่ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. แต่งตั้งนายกสภาและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจชุดใหม่ ให้ภารกิจดำเนินการใน 2 เรื่องสำคัญ คือ ให้พิจารณาแนวทางการพัฒนากิจการของโรงเรียนนายร้อยตำรวจและปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.โรงเรียนนายร้อยตำรวจปี 2551 เพื่อเตรียมการรองรับการปฏิรูปตำรวจแล้วนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายใน 3 เดือน ซึ่งแม้จะมีบางข้อความบางส่วนพาดพิงตามที่มีการกล่าวหา แต่ในบทสรุปสุดท้ายของบทความดังกล่าว ได้ระบุว่าการปฏิรูปตำรวจเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งการแยกส่วนงานออกไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง การกระจายอำนาจให้เป็นรูปธรรม การแยกงานสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจน เพื่อหลุดพ้นจากวงจรการเมืองและเพื่อเป็นตำรวจของประชาชนอย่างแท้จริง…