วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13.30 น. ที่ ห้องประชุมสวางคบุรี ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ได้มอบนโยบายและสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการทุกมาตรการอย่างเข้มข้นมากขึ้นในทุกมิติ พร้อมทั้งพิจารณาออกประกาศกำหนดการควบคุมการเผาล่วงหน้า และบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายในการห้ามเผาอย่างจริงจัง เคร่งครัด และเด็ดขาด ยกระดับมาตรการป้องกันปราบปรามเพื่อควบคุมคุมการเผาในที่อย่างจริงจัง โดยใช้กลไกท้องถิ่นและท้องที่รวบรวมข้อมูลและจัดทำบัญชีผู้มีพฤติกรรมการเผา หากพบการเผาให้ดำเนินการยับยั้งทันที อีกทั้งยกระดับมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยให้ออกหน่วยบริการให้คำแนะนำข้อปฏิบัติในการป้องกันตนเอง จัดหาอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมทั้งจัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัย ห้องปลอดฝุ่น คลินิกมลพิษ ไว้บริการประชาชน ตลอดจนยกระดับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีที่สถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหรือเกินค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ใช้ระบบบริหารจัดงานแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) บูรณาการทุกภาคส่วนยกระดับการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ พร้อมให้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ประสานบูรณาการทรัพยากรร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดอุตรดิตถ์ เร่งวางมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นPM2.5 โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำชับท้องที่ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ป้องกัน ปราบปรามและควบคุมพื้นที่ ห้ามเผาเด็ดขาด หากพบเห็นให้แจ้งดำเนินคดีทันที ได้ออกคำสั่งจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย โดยใช้ระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ มอบหมายให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด นายอำเภอ 9 อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5 ) ติดตามรายงานการปฏิบัติงานและเหตุการณ์ในพื้นที่ จัดทำบัตรประจำตัวให้ราษฏรในการขออนุญาตเข้าพื้นที่ป่า เพื่อความสะดวกในการติดตามเน้นบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการให้ความรู้ประชาชน และการเข้าตอบโต้เหตุไฟป่าในพื้นที่ป่า มอบหมายหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการเคาะประตูบ้าน ใช้เครือข่ายอาสาสมัคร รณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนงดเผาป่า พื้นที่โล่ง และส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรแก่ประชาชน พร้อมกันนี้มีคำสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำชับประชาชนงดเว้นการเผาอย่างเด็ดขาด หาก “คุณเผา เราจับ” กำชับมาตรการเข้มข้นทุกมิติ เน้นบังคับใช้กฎหมายควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด.
ที่มา สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์
รายงาน ภากร แหลมหลักผู้สื่อข่าว นสพ.ออนไลน์5เหล่าทัพ













