ชาวบ้านจับคนงานก่อสร้างเผาทั้งเป็น ในเหตุการณ์พิพาทเรื่องที่ดินในชนบทของจีน
ชี้ชาวบ้านไม่พอใจที่ถูกบุกรุกที่ดิน และได้รับค่าชดเชยไม่เพียงพอ
ชาวบ้านจับคนงานก่อสร้างเผาทั้งเป็น ในเหตุการณ์พิพาทเรื่องที่ดินในชนบทของจีน ชี้ชาวบ้านไม่พอใจ
ที่ถูกบุกรุกที่ดิน และได้รับค่าชดเชยไม่เพียงพอ
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2557 สำนักข่าวเอพี รายงานว่า เกิดเหตุชาวบ้านในหมู่บ้านฟูหยู มณฑลยูนนาน
ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน จับตัวคนงานก่อสร้างก่อนจุดไฟเผาทั้งเป็นจนเสียชีวิต 4 ราย ทั้งยังพบคนงาน
ที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะกันอย่างรุนแรงอีกรวมมีผู้เสียชีวิต 8 ราย ในเหตุความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับ
กลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการหนุนหลังโดยรัฐบาลท้องถิ่น
รายงานระบุว่า ความไม่พอใจของชาวบ้านเริ่มต้นขึ้น เมื่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของชาวบ้าน
เพื่อพัฒนาด้านเศรษฐกิจให้แก่พื้นที่ชนบทแห่งนี้ ชาวบ้านไม่พอใจที่ได้รับเงินค่าเวนคืนที่ดินน้อยเกินไป จากการนำ
ที่ดินไปสร้างโกดังและศูนย์คมนาคมขนส่ง แม้รัฐบาลท้องถิ่นจะพยายามอ้างว่าความรุนแรงนั้นเกิดขึ้นเพราะชาวบ้าน
ไม่พอใจที่การก่อสร้างดำเนินไปอย่างล่าช้าก็ตาม
จากเหตุที่เกิดขึ้น ชาวบ้านได้จับตัวคนงาน 8 ราย ขณะที่คนงานกลุ่มนี้พยายามกลับเข้ามาทำงานในสถานที่ก่อสร้าง
คนงานถูกจับมัดมือและเท้า ถูกชาวบ้านทุบตีและราดน้ำมันใส่ ก่อนจะโยนคนงานกลุ่มนี้ไปบนถนนใกล้ ๆ ที่ก่อสร้าง
ทางการยังเผยด้วยว่าชาวบ้านนำระเบิดน้ำมันที่ทำขึ้นเองโยนเข้าใส่กลุ่มคนงาน ก่อนจะจุดไฟเผาพวกเขาทั้งเป็นจน
เสียชีวิต 4 ราย และมีอีก 2 รายที่เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บที่ไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่บางสื่อรายงานว่าคนงานก่อสร้าง
เป็นผู้เริ่มโจมตีชาวบ้านก่อน และสังหารชาวบ้านจนเสียชีวิต 2 รายก่อนหน้านี้
ทั้งนี้เหตุข้อพิพาทเรื่องที่ดินในจีนมักเกิดขึ้นบ่อยครั้งเมื่อชาวบ้านที่ไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นได้ลุกขึ้นมาพยายาม
ใช้ความรุนแรงเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง และเหตุความรุนแรงในครั้งนี้ก็เหมือนเป็นการส่งสัญญาณถึงรัฐบาลจีน
ให้ตัดสินใจเพิ่มอำนาจศาลท้องถิ่น เพื่อบรรเทาความขัดแย้งระหว่างภาคประชาชนกับรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งจะมีขึ้น
ในสัปดาห์หน้าโดยคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์
ด้านนักวิเคราะห์เผยว่า หากกฎหมายจีนในปัจจุบันสามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ เหตุการณ์ลักษณะแบบนี้
คงไม่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาดังเช่นกรณีนี้้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลท้องถิ่น
ไม่มีความพยายามที่จะลดปัญหาความรุนแรงระหว่างประชาชนกับเหล่าผู้รับเหมาโครงการ