(12 ม.ค.65)เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านนายสมพาส นิลพันธุ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดนายกรัฐมนตรีถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้สั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหยุดดำเนินคดีกับชาวบ้านที่ปลูกกัญชาเพื่อการปรุงอาหารและรักษาโรค จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวว่าประชาชนปลูกต้นกัญชาแล้วไม่มีความผิดนั้น มีประชาชนหลงเชื่อเป็นจำนวนมากปรากฏข้อเท็จจริงว่าปัจจุบัน ประชาชนมีต้นกัญชาเพียง 1 ต้น ก็ยังถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีและพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องความผิดฐานผลิตและมียาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และตามประมวลยาเสพติด พ.ศ. 2564 มาตรา 148 บัญญัติโทษดังนี้ คือ “ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 93 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินห้าแสนบาท
ตนจึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาคือ สั่งการให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุขโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ป.ป.ส. ออกประกาศกำหนดการเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงชื่อหรือประเภทยาเสพติดให้โทษประเภทกัญชาให้เป็นไปตามมาตรา 29 ของประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 กล่าวคือ ให้ประชาชนทั่วไปสามารถปลูกต้นกัญชาเพื่อรักษาโรคหรือประกอบอาหารได้ ครอบครัวหรือชุมชนหรือนิติบุคคลละ 10 ต้น หรือมากกว่าโดยไม่ต้องขออนุญาตต่อทางราชการแต่อย่างใด รวมทั้งสั่งการไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ชะลอการจับกุมชาวบ้านที่ปลูกต้นกัญชาไว้สำหรับการบำบัดรักษาโรคหรือปรุงอาหาร และประสานสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อขอสั่งไม่ฟ้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ต่อไป เพื่อขอให้ชะลอการสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องนายวัชระ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาเร่งด่วนอย่างยิ่งในภาวะสังคมที่มีความเคร่งเครียดสูงและประชาชนเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจและโควิด-19 จึงขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ต้นกัญชา ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้านเพื่อการรักษาโรคและปรุงอาหารโดยไม่ผิดกฎหมายโดยด่วนที่สุด เพราะสารจากใบกัญชาสามารถนำมาดื่มเป็นน้ำชาเพื่อคลายความเครียดและรักษาโรคได้นานาชนิด